I AM JUMP : Episode 01



I AM JUMP
Episode : 01
By Bie


6 เดือนผ่านไป


ติ๊ง

เสียงเตือนของลิฟต์เรียกให้ผมละสายตาออกจากโทรศัพท์ หลังจากที่คุยกับพี่ยีน ผู้จัดการส่วนตัว เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เท่ากับว่างานวันนี้เสร็จสิ้นไปด้วยดี ความจริงพี่เขาชวนไปกินข้าวเย็นด้วยกันต่อ เพราะว่าอยากฉลองที่งานนี้ราบรื่น แถมวันนี้ยังเซ็นสัญญาโฆษณากับแบรนด์ใหม่อีกสองแบรนด์ด้วย
แต่ผมกลับปฏิเสธนัดนั้นไป เพียงเพราะว่าหงส์มันรออยู่
ทันทีที่ลิฟต์เปิดออก ผมก็ก้าวขาไปด้านหน้า สถานที่เดิมๆที่คุ้นเคยไม่เป็นอุปสรรคแม้ว่ารอบด้านจะปิดไฟมืด มือของผมคลำหาสวิตช์ไฟที่ตรงผนัง ก่อนจะเปิดมันเพื่อให้ความสว่างแก่ตนเอง
คอนโดของหงส์อยู่ที่ชั้น 77 เจ้าตัวซื้อเอาไว้นานแล้ว และเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ถาวรหลังจากกลับมาลงหลักปักฐานที่นี่ เดิมทีหงส์ร่วมหุ้นกับไอ้คังเพื่อเปิดโรงแรมห้าดาว แห่งแรกอยู่ใจกลางเมืองใหญ่ ส่วนสาขาสองไปได้ทำเลดีตรงทางตอนใต้ของประเทศ เป็นที่ที่เพื่อนสนิทของพ่อไอ้คังขายให้ในราคามิตรภาพ แต่กลับทำกำไรได้มากล้นต่อปี และด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนทำงานเก่ง พูดคุยกับคนอื่นดี พนักงานรัก ลูกค้าก็หลง ทำให้ไปได้เพื่อนร่วมธุรกิจจากทางฝั่งยุโรป ก็เลยได้มีโอกาสไปเปิดโรงแรมสาขาที่สามในวอชิงตัน ดี.ซี.
นั่นคือสิ่งที่ทำให้หงส์บินไปขลุกอยู่ต่างประเทศนานเป็นปี กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางแล้วกลับมาบริหารสาขาในประเทศของเราต่อ
ภายในห้องกว้างปรากฏร่างของผู้บริหารโรงแรมใหญ่ไขว้ขาอยู่บนเตียง มือข้างหนึ่งอ่านหนังสืออะไรบางอย่างที่ไม่คุ้นตา ในวันนี้เขาคงเปลี่ยนเล่มใหม่อีกแล้ว ตามนิสัยของคนที่รักหนังสือเสียยิ่งกว่าอะไร แล้วก็ชอบใช้เวลาอยู่กับมันมากเป็นพิเศษ
“ไม่ล็อกประตูห้องอีกแล้วนะมึงอะ” ผมเป็นฝ่ายเอ่ยทัก เรียกให้เจ้าตัวปรายตามองมาเล็กน้อยก่อนจะกลับไปให้ความสนใจกับหนังสือเหมือนเดิม
“ก็มีแค่มึงที่รู้รหัสลิฟต์กูไม่ใช่รึไง”
“แต่มันก็ปลอดภัยกว่า ป้องกันไว้ก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”
“กูไม่ได้กลัวตายสักหน่อย”
หงส์ก็ยังเป็นหงส์
ผมไม่รู้ว่าจะนิยามนิสัยของมันยังไง
บางคนอาจจะบอกว่ามันติสต์แตก ใช่.. นิสัยของหงส์ บางทีก็นิยามออกมาได้เป็นคำนั้นล่ะมั้งครับ
เหมือนจะแคร์คนอื่นเยอะ แต่บางทีก็ไม่แคร์เลย
เหมือนจะสนใจคนอื่นตลอดเวลา แต่บางทีก็ไม่สนใจ
เหมือนจะรักตัวเองมาก แต่บางทีก็ไม่รัก
บอกตรงๆว่าตามอารมณ์ไม่ทัน ไม่รู้ว่าอยู่ด้วยแล้วต้องทำตัวแบบไหน แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไปไหนไม่รอดสักที
“ถ้าให้เลือก ระหว่างตายคนแรกของกลุ่ม กับตายคนสุดท้ายของกลุ่ม เป็นมึงจะเลือกอะไร?” ผมชวนคุย
เป็นคำถามที่ทำให้หงส์ถึงขั้นวางหนังสือ ตาเรียวจ้องกลับมาที่ผมแบบนิ่งๆ ท่าทางนึกคิดนั้นทำให้ผมยกยิ้มที่มุมปาก ในที่สุดก็สามารถดึงหงส์ออกมาจากโลกของหนังสือได้สักที
“ยาก”
“คิดหนักเลย?”
“ถ้าเป็นมึง มึงจะเลือกอะไรล่ะ” หงส์ถามกลับ
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน อนาคตมันกำหนดไม่ได้นี่หว่า แต่ที่ถามมึงก็เพราะว่ายังหาคำตอบของตัวเองไม่ได้นี่แหละ”
“ถ้าตายคนแรกก็ดี จะได้ไม่ต้องแบกรับความเสียใจ การมองดูเพื่อนตายไปทีละคนมันไม่ใช่เรื่องสนุก”
“ก็ใช่”
“แต่ถ้าเป็นกู คงจะเลือกตายทีหลัง” เจ้าของน้ำเสียงนั้นพูดออกมาด้วยท่าทางนิ่งๆ ก่อนจะยักไหล่
“ทำไม?”
“จะได้จัดการอะไรให้เรียบร้อย เรื่องงานศพเอย เรื่องการปลอบคนอื่นๆในกลุ่มเอย กูคิดว่าหน้าที่นั้นกูควรจะทำ”
“แต่มึงก็ต้องแบกรับความเจ็บปวดเอาไว้คนเดียวนะ” ผมหัวเราะ
“ก็ไม่เป็นไร”
“...”
“อย่างน้อยกูก็ชอบจัดการอะไรด้วยตัวเอง ถ้ามันเป็นเรื่องของคนที่กูรัก กูก็อยากทำให้มันดีด้วยมือของกู”
นี่แหละ ความเป็นหงส์
เหมือนจะไม่คิดอะไร แต่จริงๆ แล้วข้างในหัวสมองนั้นมีความคิดที่ซับซ้อนมากกว่าคนอื่นๆ ทั่วไปนัก เรื่องที่บางคนไม่คิด แต่หงส์มักจะคิด เรื่องที่บางคนไม่แคร์ แต่หงส์ก็มักจะแคร์ หรือไม่ก็คิดเกินกว่าสิ่งที่จำเป็นเยอะพอสมควร แค่ไม่แสดงออกมาให้คนอื่นรับรู้
“กูไม่น่าชวนพูดเรื่องความเป็นความตายเลย แม่งใจหาย” ผมหัวเราะอีกครั้ง ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่ข้างๆเจ้าของห้อง
“ชวนพูดเองแล้วก็ใจหายเอง มึงบ้าปะ”
“ก็แค่อยากรู้ความคิดของมึงเฉยๆ ว่าแต่วันนี้เป็นไงมั่งล่ะ?” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“ปวดหัวนิดหน่อย”
“เรื่อง?”
“มึงล่ะโอเคมั้ย กับงานที่ทำ?”
“กูถามมึงก่อน ก็ตอบสิ”
เราทั้งสองคนมองหน้ากัน หงส์มักจะถามความเป็นไปของผมก่อนเสมอ ถ้าผมมีเรื่องให้บ่น เจ้าตัวก็จะเป็นคนที่รับฟัง ถึงแม้ว่าในวันนั้นหงส์จะมีเรื่องเครียดๆเหมือนกันก็ตาม และถ้าเสร็จจากเรื่องของผมแล้ว เขาก็จะเป็นฝ่ายที่ไม่ได้ระบายอะไร
ผมคิดว่ามันไม่ค่อยแฟร์กับหงส์เท่าไหร่ ภายหลังก็เลยอยากจะเป็นฝ่ายถามไถ่เกี่ยวกับเรื่องชีวิตประจำวันของเขาบ้าง อย่างน้อยก็ให้คนแบบหงส์ได้ระบายออกมา เพราะดูเหมือนยิ่งโตจะยิ่งหมกอยู่ในโลกส่วนตัวเยอะจนเกินไป
“งานของกูราบรื่นทุกอย่าง”
“ของกูไม่”
“ทำไม?”
“มีลูกค้าจะฆ่าตัวตายด้วยการโดดลงมาจากระเบียง โชคดีที่มีแม่บ้านไปเห็นก่อน ก็เลยไม่เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น”
“อ้าว ถ้าแบบนั้นก็ดีแล้วไม่ใช่รึไง”
“มันก็ดี แต่ก็ทำให้ปวดหัว ยังดีว่ามีคนเห็นไม่เยอะ เพราะเหตุเกิดตอนเช้า ถ้ามีคนถ่ายคลิปหรือปล่อยอะไรไปในโซเชียล กูคิดว่ามันอาจจะวุ่นวายมากกว่าเดิม”
ผมหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าสีหน้าของหงส์จริงจังเกินกว่าเหตุไปสักหน่อย ถึงแม้ว่าเรื่องมันจะผ่านไปแล้วก็ตาม แต่คนที่จริงจังกับเรื่องงานและพยายามจะทำให้ทุกอย่างออกมาดีน่ะ บางทีก็ไม่ยอมปล่อยวางสักที
“มันผ่านมาแล้ว ก็เลิกคิดได้แล้ว” ผมวางมือไว้ที่ตรงหน้าขา ในขณะที่หงส์ถอนหายใจออกมาเบาๆ พร้อมทั้งสีหน้าที่ยังปลงไม่ได้
“พูดแล้วมันหงุดหงิด ไม่อยากให้โรงแรมกูเสียชื่อเสียง”
“แต่เอาจริงๆ คนจะฆ่าตัวตายเขาก็ไม่ผิด เขาอาจจะคิดมาดีแล้วว่าโลกนี้ไม่น่าอยู่อีกต่อไป”
“กูก็ไม่ได้จะว่าอะไรเขา แค่คิดว่าถ้าจะตายทั้งทีก็ไม่น่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน”
“ไม่เอาน่ะ อย่าโมโหจะได้มั้ย”
แน่นอนว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันในโซเชียลมากพอสมควร ผมเองก็เคยได้อ่านผ่านๆตาบ้าง แต่ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่แล้วแต่มุมมองของคนจริงๆ เพราะฉะนั้นเถียงกันไปมาๆก็ไม่น่าจะหาจุดจบได้หรอกมั้งครับ
ผมลูบมือไปตามขาของหงส์ เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิม พร้อมทั้งถอนหายใจออกมาเบาๆ ท่าทางนั้นบางทีก็เหมือนเด็กๆ อาจจะเป็นผมคนเดียวก็ได้มั้งที่มีโอกาสได้เห็นมุมนี้
ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ดีรึเปล่า แต่ถ้าถามว่าชอบเห็นมุมอื่นๆของหงส์มั้ย
ผมก็ตอบได้อย่างเต็มปากว่าชอบ
ส่วนมุมอื่น..
ก็ชอบไม่เบาเหมือนกัน
“ไม่เอาน่ะ”
“เครียดอะไรมากมาย ให้กูคลายเครียดให้ก็ได้” ผมว่าพลางยกยิ้ม ก่อนจะเป็นฝ่ายปลดตะขอกางเกงของบอสใหญ่ออก มันง่ายมากจนไม่ต้องใช้สองมือ ยิ่งในตอนที่หงส์ทำเพียงปรายตามองแบบดุๆเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้ขยับตัวหนีอะไร มันก็ทำให้ผมได้ใจ
“เดี๋ยวต้องออกไปโรงพยาบาลไม่ใช่เหรอวะ”
“มีเวลาถมเถ แค่ไปเยี่ยมแฟนไอ้จัมพ์เอง”
“มึงไม่เหนื่อยรึไง”
“ไม่เคยเหนื่อยถ้าเรื่องแบบนี้”
“โรคจิต”
“ก็แค่กับมึง”
ผมคลึงนิ้วไปตามส่วนกลางลำตัวของหงส์ เราทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยสายตาที่แตกต่าง เขายังคงนิ่ง ในขณะที่ผมยกยิ้มอย่างสนุกสนาน แต่ก็เป็นที่รู้ๆกันว่าผู้ชายอย่างเราไม่อาจปฏิเสธสัมผัสอันจาบจ้วงที่รุกรานอยู่ตรงส่วนอ่อนไหวได้หรอก
มันแข็งตึงขึ้นเมื่อถูกนวดคลึง ผมดึงขอบกางเกงชั้นในลงต่ำ เผยให้เห็นส่วนลับอันแสนจะคุ้นตา ก่อนจะกำมันเอาไว้แล้วค่อยๆสาวมือขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบนาบ

ความลับของพวกเรากำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

หงส์ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ท่าทางผ่อนคลายนั้นทำให้ผมรู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก กายบางเอนหลังพิงกับหัวเตียง เป็นจังหวะเดียวกับที่ตัวผมโน้มต่ำลงไปหาเจ้าสิ่งนั้น
ท่อนเนื้ออุ่นร้อนถูกโอบรัดด้วยริมฝีปาก เสียงครางเบาๆของหงส์ทำให้ข้างในตัวของผมแปรปรวนไม่ต่างจากเขา เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่มันจะหลุดออกมาให้ได้ยิน
มือขาวๆทิ้งไว้ข้างตัว พร้อมๆกับใบหน้าเนียนที่เชิดขึ้นไปด้านบน ผมผงกหัวขึ้นลงด้วยจังหวะที่คิดว่าเขาจะต้องพอใจอย่างแน่นอน และไม่นานรสชาติอันแสนคุ้นเคยก็ซึมออกมา
ผมเหลือบมองหน้าหงส์เป็นพักๆ พร้อมกับใช้ปลายลิ้นตวัดวนอยู่ที่ตรงส่วนปลาย กรอบปากรูดเร้าขึ้นลงเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นว่าหน้าท้องแบนราบขยับหายใจถี่
“อืม..” หงส์หลังตาลงแน่น ในยามที่เจ้าตัวรู้สึกสบาย ความผ่อนคลายก็จะเข้ามาแทนที่ความเครียด แล้วบรรยากาศรอบตัวก็จะดีไปหมดทุกอย่าง
แน่นอนว่าผมชอบเวลาที่ได้เห็นแบบนั้น จังหวะในการขยับริมฝีปากไม่ได้ผ่อนลง แล้วมันก็ทำให้หงส์เผยอปากออกเล็กน้อย
ผมตื่นเต้นทุกครั้งที่เราตกอยู่ใน ‘ความลับ’ ของกันและกัน
เป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปี และถึงแม้ว่าจะมี ‘ความลับ’ กันขนาดนี้แล้ว แต่บางทีผมก็คิดว่าตัวเองไม่สามารถเข้าถึงหงส์ได้

ครับ
ไม่มีเพื่อนคนไหนรู้หรอกว่าเราทำอะไรแบบนี้

เรื่องของเราทั้งสองคนเป็นอะไรที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ อาจจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่มันก็เกิดขึ้นเพราะว่าเราทั้งสองคนต่างมีอะไรที่เหมือนๆกัน
ผมไม่มีแฟน และหงส์ก็ไม่มีแฟน
ผมงานเยอะและยุ่งมาก หงส์เองก็งานเยอะและยุ่งมาก
ผมไม่มีเวลาที่จะคอยเอาใจใส่ใครมากขนาดนั้น ส่วนหงส์ก็ไม่ชอบแบ่งเวลางานไปให้ใครเช่นกัน
แต่จะเอาอะไรมากกับผู้ชายวัยยี่สิบปลายๆที่คิดว่าเรื่องอย่างว่าก็สำคัญ เพียงแค่ไม่อยากไปเสี่ยงดวงกับคนที่ไม่รู้จักอย่างไอ้จัมพ์ ถ้าเจอคนที่เข้ากันได้ก็ดีไป แต่ถ้าเจอคนที่ไม่ถูกใจก็เรียกว่าเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา เพราะฉะนั้นเราก็เลยเห็นพ้องกันตรงนี้
คืนแรกของเราเริ่มต้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
มันเป็นคืนที่ผมมานอนดูหนังอยู่ที่คอนโดแห่งนี้ ทั้งๆที่อยากจะใช้เวลากับเพื่อนสนิทแท้ๆ แต่เขากลับเอาแต่ทำงานจนไม่ยอมคุยกัน แถมยังมีวิสกี้ตั้งอยู่ข้างกายไม่ห่างอีกต่างหาก
อารมณ์กรึ่มๆในคืนนั้น ทำให้เราทั้งสองคนทำอะไรลงไปโดยที่ไม่รู้ตัว
ไม่สิ
ต้องบอกว่ารู้ตัวแต่ไม่มีใครเอ่ยค้านเสียมากกว่า
“มึง อะ.. เร็วๆ”
ทีแรกก็กลัวว่าจะเสียเพื่อน
แต่เซ็กส์หนที่สองของเราก็เกิดขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนั้นเอง
“กูจะ.. อ่า บี้..”
เพราะฉะนั้น
ผมเลยได้รู้ว่ามันก็ไม่เสียหายอะไรหรอกครับ ถ้าจะสานต่อความสัมพันธ์

เสื้อผ้าถูกปลดออกอย่างรีบร้อนในขณะที่ผมกลืนตัวตนของเขาลงคอไปอย่างไม่รังเกียจ หงส์เอนกายลงนอนราบไปกับเตียง ยอมให้ผมเปลื้องเสื้อผ้าจนกายขาวๆปรากฏอยู่ตรงหน้า
หัวใจเต้นแรงในทุกๆครั้งที่เห็นรอยสักตรงหน้าอกเนียนนั้น เจ้าตัวมองมาด้วยสีหน้านิ่งๆเช่นเดิม แต่พอผมจับขาเรียวแยกออกกว้าง ก็ไม่มีท่าทีที่จะขัดขืนอะไร
หงส์ไม่ชอบออกแรง อาจเพราะทำงานเหนื่อยมากแล้วเลยไม่อยากทำอะไรอีก แต่เรื่องนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม เพราะเรื่องแบบนี้ผมก็เต็มใจทำให้อยู่แล้ว
เจลหล่อลื่นชโลมเคลือบนิ้ว ก่อนจะถูกสอดเข้าไปยังช่องทางหลัง ผมโน้มหน้าลงไปบดปลายลิ้นเข้ากับตุ่มสีน้ำตาลอ่อนแบบไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า
การเล้าโลมทำให้หงส์ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ผมสังเกตสีหน้าของเขาอยู่ตลอด ในตอนที่ปลายนิ้วสัมผัสเข้ากับจุดกระสันภายในร่างกาย หงส์ก็ดูจะรู้สึกดีใช้ได้ แต่เสียงหวานก็ไม่เคยเล็ดลอดออกมาจากลำคอเลยสักที
ยอมรับว่าอยากฟัง ก็เลยแกล้งสะกิดเข้าที่จุดนั้นย้ำๆ ผมเห็นว่าหงส์ขมวดคิ้วมุ่นในขณะที่สะโพกกระตุกบางหน แต่ก็คงจะต้องยอมรับว่าครั้งนี้พบกับความล้มเหลวอีกแล้ว เพราะมีแค่เสียงผ่อนลมหายใจเบาๆที่ดังออกมาก็เท่านั้น
ใจคอจะไม่ยอมให้ฟังเสียงเลยรึยังไง
แต่หงส์ก็เป็นคนแบบนี้แหละครับ
ทั้งนิ่งและเย็นชาจนเข้าถึงตัวตนได้ยาก แค่ทุกวันนี้มันเปิดโอกาสให้ผมหย่อนขาข้างหนึ่งเข้ามาในโลกส่วนตัวได้ขนาดนี้ ผมก็คงจะต้องขอบคุณมากๆแล้วล่ะ
“พร้อมยัง?”
“ถามมากชิบหาย”
คำตอบของเจ้าตัวทำให้ผมหัวเราะ ก่อนจะถอนนิ้วทั้งสองออกแล้วเคลื่อนตัวไปคุกเข่าอยู่ที่ตรงทางเข้า ถุงยางกล่องเดิมที่แสนจะคุ้นตา พร้อมด้วยท่าทางเดิมๆ แต่กลับไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ รวมถึงความอุ่นร้อนในตอนที่ได้สอดตัวเองเข้าไป
“อ่า..”
ผมก็ต้องยอมรับว่าคุ้มแล้วที่ได้มาหา ถึงแม้ว่าวันนี้จะทำงานหนักและเมื่อวานนอนไปแค่สองชั่วโมงก็ตามที
ภายในห้องกว้างมีเพียงเสียงหอบหายใจแล้วก็เสียงขยับตัวเท่านั้น หงส์กำผ้าปูที่นอนแน่น ในขณะที่ใบหน้าเบี่ยงไปทางด้านซ้ายแล้วหลับตาลง กายบางเขยื้อนไปตามแรงขยับของผม พร้อมๆกับฟันคมที่กัดริมฝีปากเอาไว้ในตอนที่ผมแกล้งกระแทกตัวเข้าไปลึกๆ
ให้ตาย ทั้งๆที่ไม่ได้มีเสียงครางเร้าอะไร แต่ผมกลับมีอารมณ์มากขึ้น กายขาวของเขาถูกบีบเค้นจนขึ้นรอยแดง ขาเรียวเกี่ยวอยู่ที่เอวสอบในขณะที่แรงโยกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนหน้าขากระทบกับแก้มก้นเป็นจังหวะถี่
“ซี้ด..”
เสียงครางกระเส่าดังขึ้นด้วยความถึงพอใจ ผมโน้มตัวลงไปดูดเม้มที่ตรงยอดอกนั้นแบบเน้นๆ เอาลิ้นดุนและดันมันเล่นจนหงส์ยกแผ่นหลังขึ้นด้วยความกระสัน
คราวนี้เจ้าตัววาดแขนขึ้นมากอดผมเอาไว้ ลำคอขาวเชิดขึ้นเพื่อเปิดทางให้ผมได้มีโอกาสใช้ปลายจมูกไซ้หาความหอม กลิ่นอ่อนๆของน้ำหอมราคาแพงติดตรึงอยู่ในหัวสมอง แล้วนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่อาจหยุดตัวเองได้เลยจริงๆ
“อย่า..อ่า.. ทำรอย”
“รู้แล้วน่า เคยทำรึไง”
“เคย ไอ้สัส..” หงส์เอ่ยปากด่า
จำได้ว่าตอนนั้นผมแกล้งทำรอยไว้ตรงลำคอ กลายเป็นว่าเจ้าตัวไม่คุยกับผมไปเลยอาทิตย์กว่า อาจจะเป็นเพราะผมโง่ด้วยแหละ ที่คิดเอาเองว่าท่าทางนิ่งๆนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าหงส์มันทำงานเหนื่อย แต่ไม่ใช่เลย จริงๆแล้วมันโกรธ แค่ไม่ยอมพูดออกมาเท่านั้น
หงส์ก็เป็นแบบนี้เสมอ
“กูไม่ยอมให้มึงโกรธอีกแล้ว โกรธแล้วก็ไม่พูด คิดอะไรก็ไม่รู้จักบอก”
“พูดมาก..สัส..อื้อ”
“ร้องอีกดิ”
“ไม่..อึก”
ผมแกล้งกระแทกตัวเข้าไปหนักๆ จนกระทั่งเตียงใหญ่ที่รองรับตัวของเราเอาไว้สั่นไปตามแรง ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี่จนดูไม่เรียบร้อย แต่กลับไม่ทำให้คนเจ้าระเบียบหงุดหงิดได้เลย เพราะเขากำลังดื่มด่ำกับอารมณ์อย่างอื่นอยู่
“ร้องบ้าง เดี๋ยวกูคิดว่าเซ็กส์กูห่วย..”
“พูดมาก สัส.. กูจะเสร็จ..อะ”
“รีบจัง”
“เชี่ยบี้.. พูดมาก..ฮึก”
หงส์เชิดหน้าขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงที่ไม่พอใจนั้นทำให้ผมหัวเราะจนตาปิด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่กล้าแกล้งอะไรต่อเพราะกลัวจะถูกโกรธเข้าจริงๆ
ท่อนเนื้อร้อนตกอยู่ในกำมืออีกครั้ง คราวนี้น้ำหนืดๆไหลซึมออกมาเยอะกว่าเดิม บ่งบอกว่าเจ้าตัวใกล้จะถึงฝั่งฝันเหมือนอย่างที่พูดจริงๆ
ผมสาวรูดให้ตามแรงเขยื้อน ให้จังหวะมันสัมพันธ์กับแรงในการโยก ความร้อนระอุของร่างกายเรียกเหงื่อออกมาได้เป็นอย่างดี แต่ก็ทำให้หน้าท้องแบนราบนั้นเงางามจนอดที่จะก้มลงไปฟัดดมอีกหนไม่ได้
หน้าท้องแบนบิดเกร็งด้วยความเสียว หงส์หายใจถี่ระรัวเมื่อผมขยี้ปลายนิ้วลงไปที่ตรงส่วนปลาย เท้าทั้งสองข้างจิกเกร็ง ทำเอาช่องทางหลังรัดแน่นมากจนผมเผลอสบถคำหยาบออกมาด้วยความสะใจ
วินาทีที่ดีที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น คราวนี้คนพูดมากแบบผมก็ปริปากอะไรไม่ออก ความเสียวทั้งหมดแล่นไปกระจุกอยู่ตรงส่วนกลาง เร่งให้กายเราตอบสนองกันไวกว่าเดิม ก่อนที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะปะทุออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
“โอ๊ย..ฮึก..”
“ซี้ดด.. เสียวสัส..”
ผมส่งลิ้นออกมาเลียริมฝีปาก พร้อมๆกับการที่กดตัวเองเข้าไปลึกๆจนหงส์เองก็สะอึก ความอัดอั้นทุกอย่างส่งออกมาจนหมด ก่อนที่ความเหนื่อยจะแทรกเข้ามาแทนที่ในเวลาถัดไป
“แฮ่ก..”
“อาบน้ำไหวมั้ย ให้กูช่วยปะ?”
“มึงเข้ามาวุ่นวายทีไรกูต้องอาบน้ำนานทุกที ไม่ต้อง”
มือเล็กนั้นส่งมาดันตรงหน้าท้อง ทำให้ผมจำต้องถอนตัวเองออกมาอย่างไม่มีข้อแม้
ไม่มีการสวีตหวานอะไรกันต่อ หรือแม้กระทั่งการคุยหยอกล้อราวกับคนที่เป็นแฟนกันเขาทำ ถึงแม้ว่ากิจกรรมที่เราทั้งคู่เพิ่งทำร่วมกันไปนั้นจะเป็นกิจกรรมของคู่รักก็ตามที
แต่ก็แหงสิ.. ผมกับหงส์..
เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย
ภายใต้ข้อตกลงที่บอกว่าจะเป็นทุกอย่างให้กันและกัน ผมเป็นเพื่อนสนิทของหงส์ เป็นเหมือนคนในครอบครัวของหงส์ อีกทั้งยังเป็นคนแก้ขัด
เราได้เปิดใจคุยกันแบบตรงๆแล้วว่าจะไม่มีการสานต่อความสัมพันธ์นี้อย่างแน่นอน เพราะว่าหงส์เองก็บอกว่าไม่อยากมีแฟน อีกอย่าง... ถ้าให้คบกับผม ปัญหาหลายๆอย่างมันก็จะต้องตามมาแน่ๆ ทั้งเรื่องความรู้สึกของเรา และความรู้สึกของคนอื่นๆในกลุ่ม มีหลายอย่างที่แบกรับเอาไว้ แล้วก็ไม่อยากให้มันเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะในตอนนี้ก็ดีมากอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น
เรื่องราวของเราทั้งสองคนถึงได้หยุดเอาไว้เพียงเท่านี้
ยอมรับจากใจว่ามันน่าเสียดาย..
ก็น่าเสียดายจริงๆนั่นแหละ.. ฮ่าๆ
แต่คนอย่างผมจะทำอะไรได้ ถ้าหงส์เป็นฝ่ายเอ่ยปากออกมาแบบนั้น ผมก็มีหน้าที่ที่คอยตามมันอยู่เรื่อยนั่นแหละครับ เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วไม่ใช่รึไง
เฮ้อไอ้บี้
ไม่ดราม่าหน่า.. ไม่เอาสิ
“ถ้างั้นอาบน้ำเสร็จแล้วบอก เดี๋ยวกูอาบต่อ”
“มึงไปอาบที่ห้องน้ำแขกเลย จะได้ไม่เสียเวลา”
“ขอนอนพักหน่อยดิ เมื่อกี๊กูก็ขยับคนเดียว”
“ไม่ต้อง บอกแล้วว่าจะต้องไปโรงพยาบาล”
เนี่ย.. หงส์ใช้สายตาดุๆกับผมอีกแล้ว แต่ก็เป็นอีกครั้งที่โดนมองแบบนั้นแล้วผมหัวเราะขำ เรียกสายตาไม่พอใจจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี แล้วนั่นก็ทำให้ผมยอมเป็นฝ่ายแพ้แต่โดยดี
“โอเคๆ”

ครืดดดดดดดดดดดดดดดด

ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน ผมมองไปตรงหัวเตียง พบว่ามันคือของหงส์ และที่ตรงหน้าจอก็แสดงให้เห็นชื่อของไอ้เจ เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม คนที่ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของพวกเราเหมือนกัน
“ไอ้จัมพ์ก่อเรื่องแหง”
“กูก็คิดแบบนั้น” หงส์ว่าพลางส่ายหัว ก่อนจะเป็นฝ่ายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับแล้วเปิดลำโพงให้ผมได้ยินด้วย
“ว่า?”
(ไอ้เหี้ยจัมพ์มันอยู่ไหน?)
นั่นไง..
เดาเอาไว้ไม่ผิดนักหรอก เพราะฟังจากเสียงของไอ้เจแล้ว ตอนนี้มันจะต้องโมโหอยู่อย่างแน่นอน
“มันทำไมอีกล่ะ ไม่ได้อยู่กับพวกกู” หงส์ตอบพร้อมกับยกมือขึ้นเสยผมหน้า
(เมียมันจะคลอดลูกละ แม่งติดต่อไม่ได้ ทำเหี้ยอะไรของมันอยู่วะ)
“เอ้า ยังไม่ถึงกำหนดไม่ใช่?” ผมถามด้วยความตกใจ
(ก็เพราะว่าพ่อเด็กแม่งทำตัวเหี้ยแบบนี้ไง แม่ก็เลยเครียดจนคลอดก่อนกำหนด แล้วแม่งดูดิมันหายหัวไปไหนวะเนี่ย ติดต่อมันให้กูดิ๊)
“ถ้ามึงติดต่อมันไม่ได้แล้วพวกกูจะตามแม่งยังไ..”
“เออๆ กูตามให้”
หงส์เป็นฝ่ายตัดบท ก่อนจะตัดสายของไอ้เจทิ้งไป แล้วก็จิ้มนิ้วไปยังเบอร์ของไอ้จัมพ์ในทันที
นี่แหละนะ..
“สรุปว่า.. กูอาบน้ำก่อนนะ”
“อืม”
หงส์ก็ยังเป็นหงส์
คนที่คอยจัดการเรื่องของเพื่อนทุกคนในกลุ่ม
ก็คือหงส์คนเดิมนี่แหละ


..

to be con

#จัมพ์หล่อ



ความคิดเห็น

  1. บี้หงส์ หรือหงส์บี้กันนะ😕

    ตอบลบ
  2. พระเจ้าาาาพี่แนนแบบแใำวยกสดสดยพสไยกาดาเป็นคัตที่หัวใจไม่วายแต่ตายไปเลยแงงงง

    ตอบลบ
  3. หงส์เป็นทุกอย่่างของกลุ่มเเล้ว

    ตอบลบ
  4. ตายๆๆๆๆกุตายยย กุว่าแล้วว่ามีซัมติงงง กรี้ดดดดด เรือโผมมมมม แต่...เค้าไม่ได้เป็นอะไรกัน..;-;

    ตอบลบ
  5. กรี๊ดดดดด ตอนแรกชอบคู่ตี๋หลง ซันนินมากๆ คู่นี้ยิ่งกว่าอ่ะ ชอบความสัมพันธ์ลับๆจุง

    ตอบลบ
  6. เปผ้นทุกอย่าง เช่นเมีย

    ตอบลบ
  7. ชอบบบบบบบบ กี๊ดๆๆ

    ตอบลบ
  8. ที่นอนหยับหมดเรยอ่ะ55555

    ตอบลบ
  9. เรือผมครับเรือผมมมมมมม

    ตอบลบ
  10. ต้องทำกันบ่อยๆขนาดไหน ถึงเข้าง่ายขนาดนี้ เขิงงงงงงง

    ตอบลบ
  11. ไม่ระบุชื่อ14 ตุลาคม 2561 เวลา 02:15

    พี่แนนอ่าาาา555
    บี้หงส์

    ตอบลบ
  12. ไม่ระบุชื่อ14 ตุลาคม 2561 เวลา 02:16

    พี่แนนอ่าาาา555
    บี้หงส์

    ตอบลบ
  13. เรือเราเองงงงงงงงงงงง

    ตอบลบ
  14. อยากอ่าน I AM JUMP อะแง

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Episode 16 - อย่าชักช้าสิครับคุณ

Episode 12 - จำได้รึเปล่า (2/2)