Episode 34 - วันศุกร์สุขสันต์ (1/3)






I AM DEW
Episode 34 (1/3)

By Mhog

ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายหรือเพราะว่าหัวหน้าเขาน่ารักเก่ง ถึงได้ทำให้ผมเคลิ้มไปทั้งใจได้อย่างเช่นในตอนนี้ ในเวลาตอนกลางคืนที่ปกติเขาควรจะเข้านอนไปแล้ว แต่ในวันนี้มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น นิ้วเรียวยาวเกลากีตาร์ไปเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงฮัมเพลงที่ดังออกมาจากคอเพียงเบาๆ
ผมมองภาพนั้นด้วยใจที่สั่นไปหมด ในยามที่เขาตั้งใจทำอะไรสักอย่างมันโคตรจะน่าเอ็นดู ร่างเล็กเพิ่งจะบอกกับผมหยกๆเลยว่ากำลังฝึกเล่นกีตาร์ มันเป็นสิ่งที่ผมไม่คิดว่าคนอย่างหัวหน้าเขาจะให้ความสนใจ แต่พอถามถึงสาเหตุเขาก็ตอบมาว่าเพราะการเล่นดนตรีทำให้ใจเย็นลง เสียงกีตาร์ทำให้เขาผ่อนคลาย แถมยังสบายใจจนคิดเรื่องอื่นๆออกอีกด้วย
ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันจริงรึเปล่า เพราะผมก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับทางนี้เลย หากแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สบายใจกลับเป็นใบหน้าจิ้มลิ้มอันแสนจะน่ารักของเขาเสียมากกว่า ข้างแก้มเนียนที่ป่องออกมาและแสนจะนิ่มนั้นผมได้เอาจมูกไปสัมผัสแล้วหลายต่อหลายครั้ง ยังจำความรู้สึกนั้นได้ดีว่าการที่ได้หอมแก้มใครสักคนมันดีขนาดไหนกัน
ยิ่งเป็นคนที่เราชอบนะ..
บอกตรงๆว่าผมเองก็โคตรจะเขิน
อาจเพราะว่าผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว กับการที่เราชอบใครและเขาคนนั้นก็ชอบตอบ ความรู้สึกมันต่างจากตอนที่วิ่งไล่ตามเอยแบบลิบลับ บอกตรงๆเลยว่าตอนนั้นโคตรเหนื่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเอยเขาผิดอะไรนะครับ ก็อย่างว่าแหละคนที่ไม่ใช่มันก็คือไม่ใช่ แล้วสิ่งที่ได้ตอบแทนมาในตอนนี้.. ผมก็ว่ามันคุ้มแล้วกับที่ตัวเองอกหักในตอนนั้น
“มองอะไรอะ”
ผมหลุดออกจากภวังค์ในตอนที่ได้ยินเสียงเล็กนั้นเอ่ยเรียก หัวหน้าจ้องผมตาแป๋ว เขากอดกีตาร์เอาไว้พร้อมกับเอียงคอมองด้วยท่าทางใสซื่อ
ซื่อแบบที่ซื่อจริงๆ ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรเลย
ให้ตายเถอะ
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ.. มีคนชวนผมมาหาที่บ้านกลางดึกแบบนี้ ทันทีที่ถึงห้องผมจะจับเขาทุ่มลงเตียงแล้วก็จัดให้หนักจนไม่มีเวลาได้มานั่งมองหน้ากันภายใต้ความเงียบ แต่กับการที่จุ้นเขาเรียกผมมา มันคือการเรียกโดยที่ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น ในหัวของเขาคงไม่ทันได้คิดถึงเรื่องอย่างว่าหรอกครับ
ยอมรับว่ามันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับตัวเองกลายเป็นคนเลวหน่อยๆ ในตอนที่มองเขานั่งเล่นกีตาร์เมื่อกี๊ ข้างในหัวของผมมีแต่คำว่าทำไมน่ารักจังวะ
ทำไมน่าฟัด
ทำไมน่ากอด
แล้วก็อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ทำให้ยั้งสติของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ มันเผลอคิดไปไกลถึงคำว่าทำไมน่าปล้ำจังวะ
คือก็ไม่ได้คิดจะทำหรอกครับ แต่มันก็แวบเข้ามาในหัวอยู่เรื่อยๆ
เนี่ย ไอ้หมอก
ทั้งๆที่หัวหน้าเขาก็ไม่ได้แต่งชุดอะไรที่ล่อตาล่อใจนะ ความจริงแล้วผมชอบให้คนที่ตัวเองนอนด้วยเอาเสื้อของผมไปใส่ ยิ่งเป็นคนที่ตัวเล็กกว่า พอเขาถูกสวมทับด้วยเสื้อตัวใหญ่ๆก็จะทำให้.. บอกตรงๆ มองแล้วมีอารมณ์ขึ้นมาในทันที
แต่ในตอนนี้หัวหน้าเขาไม่ได้อยู่ในสภาพแบบนั้นแท้ๆ ร่างเล็กใส่ชุดนอนแขนยาวจนเหลือปลายนิ้วออกมาที่มือเพียงเล็กน้อย ไหนจะกางเกงขายาวที่คลุมเอาไว้จนถึงข้อขา ทำให้ผมเห็นได้แค่เท้าขาวๆของเขาเท่านั้น
แล้วทำไมผมถึงได้คิดอะไรก็ไม่รู้วนไปวนมาอยู่แบบนี้วะ
“เราทำตัวไม่ถูกแล้วนะเนี่ย” เขาหัวเราะออกมาแห้งๆ คำพูดนั้นทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ของตัวเองอีกหนก่อนจะรีบยกมือขึ้นถูปลายจมูก
“หืม? ว่าไงนะคะ”
“หมอกเอาแต่มองหน้าเราแปลกๆ”
“มันแปลกยังไง?” ผมหัวเราะร่วน
“ไม่รู้ แต่เราแบบ..” เขาเว้นจังหวะไปสักพักก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าเดิม “มันเขินๆ พอเห็นหมอกมองแบบนี้”
“เดี๋ยวนี้ใช้คำว่าเขินบ่อยจัง หัวหน้ารู้สึกบ่อยหรอคะ?
“ก็หมอกเป็นคนบอกเราเอง ว่าถ้ามันรู้สึก.. หน้าร้อนๆ หรือว่าไม่กล้ามองหน้าของหมอก แปลว่าเราเขิน”
ดูความใสซื่อของเขาดิ เรื่องที่จุ้นพูดออกมามันคือความจริง แล้วนั่นก็ทำให้ผมเอ็นดูเขามากๆเลยด้วย ที่ผ่านมาเจอแต่คนโชกโชน พอมาเจอคนที่ใสมากขนาดนี้ผมก็บอกตรงๆว่าแอบทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
แต่ก็อยากทำ
คือหมายถึงว่า อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ของเราให้มันไปได้ไกลกว่านี้ คืบหน้ากว่านี้ อะไรทำนองนี้น่ะครับ
ก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงเหมือนกัน
หรือว่าวันนี้ผมเมาๆวะ มันเลยควบคุมความคิดของตัวเองไม่ได้สักเท่าไหร่
“แล้วเวลาเขินนี่หัวหน้ารู้สึกยังไงบ้างคะ”
“หือ?” เขาทำหน้างงอีกแล้ว
เนี่ย พอเห็นแบบนี้แล้วในหัวของผมก็คิดดีไม่ได้อีกละ
ความใสของเขามันน่าทำอะไรบางอย่าง..
ผมว่าผมต้องไปล้างหน้า
“มันก็รู้สึกไม่ดีในท้องอะ หมายถึง.. เราก็บอกไม่ถูก”
ความซื่อของเขาไม่ดีต่อตัวเองเลยสักนิด ผมว่าตอนนี้ผมหน้าร้อนๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมทำมันก็เลยเป็นเพียงแค่หัวเราะออกไปเบาๆ ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วเป็นฝ่ายขอตัวไปเข้าห้องน้ำตามที่ตั้งใจไว้
ดูเหมือนว่าความเย็นของน้ำจะช่วยให้ไอ้ความคิดที่มันเตลิดไปไกลลดลงได้เล็กน้อย ผมใช้สองมือลูบหน้า ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกเพื่อเตรียมตัวที่จะเข้านอน ส่วนเจ้าของห้องเขาก็สอดขาทั้งสองข้างเข้าไปในผ้าห่มเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะครับ
ความสว่างในตอนแรกถูกลดลงเมื่อไฟดวงใหญ่ถูกปิด เหลือเพียงแสงอ่อนๆสีส้มจากโคมที่ตรงหัวเตียงก็เพียงเท่านั้น ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงแล้วค่อยดึงผ้าห่มมาคลุมตรงช่วงขาเอาไว้ สอดกายเข้าไปนอนอยู่ข้างๆอีกฝ่ายแบบเก้ๆกังไม่ต่างกัน
ทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อย ผมนอนกับเขามากกว่าครั้งเดียว และกอดกับเขามากกว่าสองที แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ไอ้ก้อนเนื้อด้านซ้ายมันก็เต้นตึกตักอยู่เสมอ แล้วก็ไอ้อาการนี้แหละ มันทำให้ผมรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยมันคือความชอบแบบจริงๆ ไม่ใช่ความหลงไหลเพียงชั่วคราว
ทุกอย่างเหมือนเดิมราวกับคืนแรกที่นอนด้วยกัน ทั้งผมและจุ้นนอนนิ่งอยู่บนเตียงทั้งๆที่โคมไฟยังไม่ดับลง มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและเสียงหายใจเท่านั้นที่ดังคลออยู่ตรงข้างหู ผมไม่รู้ว่าเขาหัวใจเต้นแรงเหมือนกับผมบ้างรึเปล่า แต่ก็ภาวนาให้เป็นแบบนั้น
เวลาผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง ในขณะที่พวกเราสองคนยังคงนอนท่าเดิม ผมตัดสินใจเลื่อนมือไปประสานเข้ากับมือของหัวหน้าห้องภายใต้ผ้าห่มที่อุ่นร้อน เชื่อไหมว่ามือของเขาเย็นเฉียบจนผมรู้สึกตกใจ
ผมเห็นจุ้นเม้มริมฝีปากในตอนที่ผมเขยิบเข้าไปใกล้อีก เราสองคนอยู่ชิดกันมากจนแขนเสียดสี ร่างเล็กเกร็งพอสมควร แล้วนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผมเห็นว่าแก้มของเขาแดงจนมาถึงใบหู
“คืนนี้กอดได้มั้ยคะ?
“ห..หือ?
“หมอกจะขอหัวหน้าทุกครั้งนั่นแหละ ก่อนจะทำอะไร”
“ก..ก็ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร”
เขาน่าเอ็นดูแม้กระทั่งตอนที่พูดตะกุกตะกัก หัวหน้าเม้มริมฝีปากแน่นเมื่อผมพลิกตัวนอนตะแคงแล้วใช้แขนสวมกอดเขาเอาไว้ ร่างเล็กเริ่มจะหายใจไม่เป็นจังหวะ และในตอนที่สันจมูกของผมซุกอยู่แถวๆซอกคอของเขา ..
บอกตรงๆว่าจู่ๆไอ้ความคิดบ้าๆในตอนแรกมันพุ่งพรวดเข้ามาอีกครั้ง ตัวของเขาหอมสะอาดราวกับเด็ก ไหนจะแก้มนิ่มๆที่แสนจะหลอกล่อให้กดจมูกเข้าไปหอมนี่อีก
“งื้อ หมอก”
เขาหลับตาปี๋เมื่อผมอดใจไม่ไหว ตามปกติที่นอนกับจุ้นผมก็ต้องใช้ความพยายามในการหักห้ามใจเป็นอย่างมากอยู่แล้ว แต่ในวันนี้มันเหมือนจะต้องมากกว่าเดิม.. มากแบบเยอะพอสมควรเลยด้วย
“หมอก..ฮื่อ”
“หัวหน้าจะร้องทำไมอะคะ”
“ก็หมอกหอมแรง..เดี๋ยว ฮื่อ” เขาครางฮืออีกครั้งในตอนที่ผมกดจมูกลงไปฟัดแบบแรงๆ แก้มเนียนถูกจมูกถูไถไปเรื่อยจนหัวหน้าห้องหลับตาปี๋และกำมือแน่น เขาไม่ยอมลืมตาขึ้นมามองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ และเมื่อเป็นแบบนั้นมันก็ทำให้ความอยากทวีคูณมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
ผมจ้องอยู่ที่ริมฝีปากสีแดงระเรื่อ ร่างเล็กยังคงหลับตาหลบหนีความอาย ความจริงผมควรจะพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ตัดสินใจกดริมฝีปากลงไปแนบกับเขาแบบไม่บอกไม่กล่าวอย่างนี้
ผมเหมือนเสือที่ไม่อาจหักห้ามใจได้ ในตอนที่เห็นลูกแกะยืนอยู่ตรงหน้า
“อื้อ..”
เขาสะดุ้งเหมือนทุกทีที่เราจูบกัน แต่วันนี้หัวหน้าไม่ได้เม้มริมฝีปากหนีเหมือนอย่างที่เคย เขาหยุดตัวเองเอาไว้แค่นั้น ร่างเล็กนอนตัวแข็งทื่อยอมให้ผมงับเบาๆที่ตรงริมฝีปากล่างแล้วค่อยๆดูดกลึง
ให้ตาย
เขาไม่ร้องห้ามเลยด้วยซ้ำ
และยิ่งทำไปเรื่อยๆมันก็ยิ่งได้ใจ
ผมเป็นคนเอาแต่ใจนะบอกตรงๆ
ลมหายใจร้อนๆที่พ่นออกมารดทำให้เลือดในกายปั่นป่วนไปหมด การดูดเม้มริมฝีปากนั้นหนักขึ้นเรื่อยๆ ฟังจากเสียงที่รอดเข้ามาในใบหูแล้วก็ยิ่งปลุกอารมณ์ที่นอนนิ่งอยู่ในตอนแรกให้แตกกระเจิง
“อะ..อึก”
ผมเคลื่อนตัวขึ้นมาคร่อมเขาเอาไว้ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน ริมฝีปากที่บดเบียดอยู่ในตอนแรกเพิ่มน้ำหนักในการกดทับให้มากขึ้นไปอีก กลีบปากบางเผยอออกเมื่อผมดุนปลายลิ้นเข้าไปอย่างเอาแต่ใจ
แรงดึงตึงๆอยู่ที่ตรงคอเสื้อทำให้ผมรู้ว่าหัวหน้าเขาหวั่นเกรงมากแค่ไหน.. แต่ในเมื่อมันไม่มีเสียงร้องห้ามดังออกมา..
ผมก็ว่าผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้วครับ
“อ..อื้อ แฮ่ก”
ใบหน้าของเขาแดงก่ำในตอนที่ผมถอนจูบออกมา ทั้งๆที่ในใจบอกกับตัวเองว่าควรจะปล่อยให้เขาได้พักแล้วหยุดการกระทำทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ แต่ผมกลับห้ามร่างกายตัวเองไม่ได้
ริมฝีปากประกบเข้าหาเขาอีกรอบด้วยรสจูบที่หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม ผมดูดซับเอาความหวานมาจากคนใต้ร่างจนอกบางหอบสั่น หัวหน้ากำเสื้อเอาไว้แน่นจนมือขาวๆนั้นแดงไปหมด แต่ถึงกระนั้นลิ้นร้อนๆก็ยังพยายามตวัดตอบกลับมาแบบเงอะๆงะๆ
อย่าทำแบบนี้เลยขอร้อง
ผมว่าผมปล้ำแน่
ต้องปล้ำแน่ๆอะ
“หมอก..อื้อ”
ผมจับขาของเขาแยกออกก่อนจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกลาง ทันทีที่เราทั้งคู่เบียดเสียดเข้าหากันผมก็ใจเต้นแรงมากกว่าเดิม เนื่องจากว่าสัมผัสได้ถึงตัวตนของเด็กเรียนที่ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอมาก่อน
เขาหน้าแดงมากในตอนที่ผมแกล้งเบียดสะโพกไปหนักๆ ความแข็งขืนนั้นทำให้จุ้นกัดริมฝีปากแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ตาเรียวปิดแน่นสนิทพร้อมกับร้องครางในลำคอเมื่อผมลากมือไปตามเอวบาง
“หมอกอย่า..”
เขาพยายามดิ้นหนีในตอนที่ผมล้วงมือ แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว.. ก็ต้องขอโทษเอาไว้ล่วงหน้าเลยครับ เพราะผมไม่คิดที่จะหยุดมันเอาไว้แน่ๆ
“ปกติทำมั้ยคะ?
“...” เขากัดริมฝีปากแน่น คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันจนมันแทบจะเป็นปม หัวหน้าไม่ยอมตอบคำถามของผม เขาทั้งสองข้างพยายามหนีบเข้าหากันในตอนที่ผมกำตัวตนของเขาเอาไว้แล้วค่อยๆขยับมืออย่างแผ่วเบา
ผมไม่รู้ว่าเขาทำในสิ่งที่ผู้ชายด้วยกันทำรึเปล่า แต่ดูจากริมฝีปากที่เผยอออก และสีหน้าที่ผ่อนคลายในตอนที่โดนคลึงเบาๆตรงส่วนหัว มันก็ทำให้คิดไปเองแล้วว่า.. เขาไม่เคยแน่ๆ
“อ..อะ หมอก”
เขาดูไม่กล้าร้องด้วยซ้ำ ผมเพิ่มจังหวะนิ้วในการคลึงอยู่ที่ตรงส่วนหัวจนกระทั่งสัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะ หัวหน้ากัดริมฝีปากแล้วสะบัดหน้าหนี สะโพกบางถดลงจากเตียงเพื่อถอยหนีแต่เขาก็ไม่สามารถรอดจากการกระทำอันจาบจ้วงนี่ได้หรอกครับ
“รู้สึกยังไงบ้างคะ?
“มะ..หมอก ฮึก..”
“หัวหน้าร้องได้นะ.. ถ้าอยากจะร้อง”
“อะ.. อื้อ”
เขามีสีหน้าที่ทรมานพอสมควร แต่ผมกลับคิดว่าตัวเองต้องโรคจิตแน่ๆ เพราะผมโคตรจะชอบมองเลยในตอนที่เป็นแบบนั้น
หัวหน้าแม่ง
ทำไมหัวหน้าถึงต้องน่าปล้ำด้วย
อารมณ์ของผมเตลิดไปแบบโคตรไกล จุ้นยังคงร้องออกมาจากลำคอแบบเบาๆ เขาคงจะอายมากพอสมควร แล้วผมจะไม่บังคับให้จุ้นเผยอะไรออกมามากไปกว่านี้ เพราะว่าครั้งนี้มันคือครั้งแรกของเขา
ได้แค่นี้ก็พอใจแล้วล่ะครับ
“หัวหน้าชอบมั้ย”
“หมอก..พอ..อ๊ะ- พอเถอะ” เขาเผยอปากคราง แผ่นหลังบางแอ่นขึ้นจากเตียงเมื่อผมแกล้งขยี้ปลายนิ้วลงไปแบบหนักๆ บัดนี้ท่อนเนื้อของเขาลื่นไปด้วยหยาดน้ำแห่งความต้องการ แล้วมันก็ทำให้ผมสะดวกในการสาวมือแบบไม่มีอะไรมาติดขัดโดยทั้งสิ้น
“อยากให้พอหรอคะ?
“มัน..คือ อ๊ะ- มันแปลกๆ”
เขาไม่เคยจริงด้วยอะ
เขาไม่เคยว่ะ
ไอ้หมอก
มึงแม่ง
ทำให้เด็กเรียนกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง
“แปลกแล้วดีมั้ยคะ?” ผมก็ด่าตัวเองไปแบบนั้นอะ แต่ถึงขนาดนี้แล้วผมไม่ยอมหยุดหรอก เสียงน้ำที่ถูกเสียดสีแบบรัวๆดังออกมาจากนอกผ้าห่ม ผมเพิ่มจังหวะให้เร็วมากยิ่งขึ้นจนในที่สุดจุ้นก็ยกมือขึ้นมาปิดปากเอาไว้เพราะไม่อาจที่จะกลั้นเสียงได้อีกต่อไป
เขาพยายามเขยิบเอวหนีแล้ว แต่มีหรือผมจะปล่อยให้หลุดรอด ตาเรียวเล็กฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำใสๆที่เอ่อล้น คิดว่าเขาน่าจะเสียวมากพอสมควร เพราะผมเองก็รู้ดีว่าผู้ชายด้วยกันน่ะ.. ทำแบบไหนแล้วจะรู้สึกดี
“หมอกขอดูได้มั้ยคะ?
“มะ..อย่านะ ไม่..อ๊ะ- ไม่เอา” เขาดึงผ้าห่มเอาไว้เมื่อผมทำท่าเหมือนจะเปิดออก ร่างเล็กรีบส่ายหน้ารัว ความกลัวปรากฎอยู่ทั่วใบหน้าจนผมอดที่จะสงสารไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
โอเค
“ไม่ดูก็ได้ค่ะ”
จะถือว่าเป็นครั้งแรกนะ
แต่ถ้ารอบหน้า
ผมจะต้องเห็นเขาแบบเต็มๆตา
เพราะผมอยากดู
“หมอก..อึก..หมอก”
“หัวหน้าจะเสร็จเหรอคะ?
“พอ..อ๊ะ พอแล้ว นะ ฮึก”
“ปล่อยออกมาค่ะ”
ผมขยับมือให้เร็วยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาเอาแต่ร้องห้าม ร่างเล็กครางเสียงแผ่วก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าเอาไว้ ยิ่งเขาลืมตัวว่าควรจะกลั้นเสียงให้เบามันก็ทำให้ผมยิ่งได้ใจ จนกระทั่งกายเล็กกระตุกนิ่งไป พร้อมกับความอุ่นร้อนที่ทะลักออกมาใส่มือแบบมากพอสมควร
“อ..อ๊ะ ฮึก..อื้ออ”
“เห็นมั้ยว่าหัวหน้าไม่ยอมให้หมอกดู มันจะเลอะผ้าห่มนะคะ กางเกงด้วย ถอดออกมั้ย?
“หมอกไม่เอา.. หมอกอย่า” เขางอแงไม่ยอมให้ผมดึงผ้าห่มออก หัวหน้าห้องทำเหมือนจะร้องไห้ในตอนที่ผมดึงดัน แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ท่าทางอันน่าสงสารนั้นทำให้ผมยอมแพ้
“โอเคค่ะ” ผมดึงมือออกมาจากกางเกงของร่างเล็ก ก่อนจะเปิดผ้าห่มออกจากตัว ทันใดนั้นคนขี้อายก็รีบดึงเข่าเข้าไปกอดเอาไว้ในทันที แบบนั้นมันก็เลยทำให้ยิ่งเลอะมากขึ้นไปใหญ่  “หัวหน้าไปอาบน้ำใหม่เลยก็ได้ แล้วเดี๋ยวหมอกยืมห้องน้ำต่อนะคะ”
“หือ?” เขาเม้มริมฝีปาก คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเลี่ยงสายตาไปทางอื่น
“หมอกจะไปทำบ้าง หรือหัวหน้าจะทำให้หมอก”
“...” ถามแค่นั้นเขาก็หน้าแดงแป๊ด จุ้นก้มหน้ากดคางชิดอกไม่ยอมตอบคำถาม ท่าทางแบบนั้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปหัวเราะในทันที
เขาน่ารักอะ
“หัวหน้า”
“หือ..” จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ร่างเล็กกอดเข่าเอาไว้แน่นแล้วเกยคางอยู่ท่าเดิม
“ที่หมอกไม่ทำต่อเพราะว่ามันไม่มีอุปกรณ์”
“...”
“กับเรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง หลังจากนั้นหัวหน้าเขาก็เงียบไป
ภายในห้องตกอยู่ท่ามกลางความเงียบ จุ้นเป็นฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่นในตอนที่พบว่าผมเองก็จ้องหน้ากลับ
“เรามาทำให้มันถูกต้องกันมั้ยคะ?
“ห..หือ” เขาอึกอักอีกครั้ง จนถึงตอนนี้มือบางกำเข้าหากันโดยที่ไม่รู้ตัว รวมทั้งปลายเท้าทั้งสองข้างที่จิกลงกับเตียงอีกด้วย
โอเค
เขาเขิน
ถ้างั้น
“เป็นแฟนกับหมอกนะ”
“...”
“มันอาจจะเร็วเกินไป แต่ว่า.. หมอกจะเป็นแฟนที่ดี”
“คือ..”
“ได้มั้ยคะ?
“...”
“คบกันนะคะ”




talk : ยาวๆไปค่ะ เดี๋ยวทยอยลง (2/3) กับ (3/3) ให้จ้า โฮร555555555555555
tag #ดิวเด๋อ 


ความคิดเห็น

  1. ปริ่มมากกกกกกกกก

    ตอบลบ
  2. หมอกกำลังติวจุ้นให้ไงคะ5555

    ตอบลบ
  3. รู้สึกโล่งใจลูกฉันยังรอด��
    หมอกใจเย็นๆนะเห็นใจเมนแจฮวานแบบพี่ด้วย��

    ตอบลบ
  4. ตัดตอนจบได้แปบ งื่ออ

    ตอบลบ
  5. ฮื่อออออออ ชอบคู่นี้อ่ะะะะ แงง

    ตอบลบ
  6. เหมือนค่อยๆเห็นรู้กรักเติบโต อมก.

    ตอบลบ
  7. ตกลงสิ ตกลง ฮืออออ

    ตอบลบ
  8. ตกลงสิ ตกลง ฮืออออ

    ตอบลบ
  9. โอ๊ยยยยยยยยยย เขินนนนนนนนน สหววปวำสปยหงปบ ฮือออออ จะตายแล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตบหมอนไปกี่รอบแล้วไม่รู้อะ แง

    ตอบลบ
  10. อร้ากกกกกกหกกกกดกหกกกกกกดแกดกกก

    ตอบลบ
  11. ดิส อีส มินฮะว๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน(ฟีลประกวดนางงาม) เอ๊ะหมอกจุ้น อะ คริกคร๊ากกกกกก

    ตอบลบ
  12. ตัดตอนจบแบบละครไทยอีกละ

    ตอบลบ
  13. หา2/3ไม่เจอเลยค่ะเธอ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I AM JUMP : Episode 01

Episode 16 - อย่าชักช้าสิครับคุณ

Episode 12 - จำได้รึเปล่า (2/2)