Episode 24 - ไหนว่ากลับใจ







I AM DEW
Episode 24

 ก่อนอ่านตอนนี้ อ่านดิวเด๋อ ในจอยลดาตอนที่ 24 ให้จบก่อนนะคะ

19.32 น.
By Dew

ตึกร้าง..
เพียงแค่เอ่ยชื่อก็พอจะรู้ว่าเป็นสถานที่ที่ใครก็ไม่คิดจะมา ยิ่งในตอนที่ท้องฟ้าบริเวณโดยรอบเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทแบบนี้ ความมืดมิดอาจเป็นอุปสรรคในวันที่ไม่มีคนมาเยือน หากแต่วันนี้กลับได้แสงไฟจากรถทุกคันที่จอดเรียงรายอยู่โดยรอบ
กลุ่มบุคคลที่คุ้นหน้ากันดีพากันเดินลงจากรถ รวมถึงตัวผมที่เข้าไปสมทบกับกลุ่มของพวกพี่จัมพ์ที่มารออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว เจ้าตัวควงไม้เบสบอลคู่ใจเล่นฆ่าเวลา บนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความสนุกสนาน สายตาที่จ้องมองอีกฝ่ายมีความกระหายอย่างปิดไม่มิด
พี่จัมพ์ก็ยังคงเป็นพี่จัมพ์
ผมเหลือบมองข้างกาย ทุกคนมีอาวุธพร้อมเพรียง มันเรียกให้บรรยากาศเก่าๆกลับคืนมาในหัว ผมยังจำความรู้สึกนี้ได้เป็นอย่างดี กับการที่กลุ่มคนสองกลุ่มนัดกันมาเคลียร์ปัญหานอกสถานที่ ซึ่งมักจะจบด้วยเลือดและมีใครบางคนไปนอนที่โรงพยาบาลเสมอ
หากแต่วันนี้กลับไม่ค่อยสบายใจนัก
ผมเงียบมาตลอดทาง ไม่ได้ปริปากพูดอะไร แต่ก็เหมือนว่าทุกคนคงจะรู้กันดีเลยไม่ปริปากถาม
เรื่องของเอยยังคงติดอยู่ในหัว แน่นอนว่าผมไม่ได้ลืมเขาเลยสักวินาที แต่กับการที่โดนหยามมากขนาดนี้ และคนที่โดนหาเรื่องก่อนดันเป็นคนฝั่งผม การตีกันในตอนเย็นหาบทสรุปไม่ได้เนื่องจากพี่หงส์เข้ามากระชากคอไอ้ซันออกไปพร้อมกับพูดเตือนสติว่าเดี๋ยวครูแห่กันมา
แต่เพียงแค่นั้นหัวของมันก็แตกเนื่องจากพวกไอ้หมอกเข้ามาสมทบทีหลัง ทำให้การตีกันวุ่นวายมากกว่าเดิม และตัวผมเองก็ผิดที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นด้วย
ผมเป็นห่วงเพื่อน แล้วก็เลี่ยงไม่ได้ด้วยกับการที่จะต้องมีเรื่องกันต่อ สำหรับพวกผมแล้ว คำว่าศักดิ์ศรีมันมีค่า ในขณะที่บางคนอาจจะมองว่ามันไร้สาระก็เป็นได้ แต่มุมมองของพวกเราก็คงจะไม่เหมือนกัน
ไอ้ซันกระชับ ลูกรัก ของมันในขณะที่เอาลิ้นดุนแก้ม ส่วนผมเองก็แตะนิ้วลงไปยังสนับมือที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋า ในขณะที่รอให้ไอ้ตัวปัญหาเดินทางมาถึง
“ช้าว่ะไอ้สัส เดี๋ยวกูกระทืบแม่งรายคน” พี่จัมพ์พูดแบบเดือดๆ บางทีอาจจะเป็นโชคร้ายของไอ้เคที่มันเลือกเปิดศึกวันนี้ เพราะกลุ่มรุ่นพี่ของผมมาเยี่ยมที่โรงเรียนพอดี มาแบบครบทั้งทีมเลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะปิดบัง
 “กูเตือนแล้วนะว่าให้น้องมันเคลียร์กันเอง” พี่หงส์พูดขึ้นมาบ้าง เจ้าตัวยืนพิงรถอยู่เงียบๆ ในมือคีบบุหรี่เอาไว้ก่อนจะโดนพี่บี้แย่งไปดูดแทน
“น้องเคลียร์กันเองเหี้ยไร กูจำได้ ไอ้เหี้ยอู๋ไรนั่นเข้ามาต่อยกูอยู่เลย อยากช่วยเพื่อนดีนัก เดี๋ยวมันต้องเจอ” พี่จัมพ์ว่าต่อ “แม่งตั้งแต่เรื่องโทรศัพท์กูแล้วนะไอ้ควยนี่”
“งั้นมึงก็เคลียร์กับไอ้อู๋ ไอ้ซันมึงเคลียร์กับไอ้เค” พี่หงส์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับว่ากำลังจะแบ่งขนม แต่ที่จริงแล้วกำลังจะขึ้นสังเวียนต่อยกันต่างหาก
ปกติแล้วเขาเป็นคนใจดีและมีสติที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะยอมให้คนนอกแก๊งมารุกรานได้ นั่นคือสาเหตุที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะฟังพี่เขา เพราะความคิดของพี่แกมักจะทำให้ทีมของเราเป็นต่อได้เสมอ
“มึงคิดว่าไอ้พวกนั้นจะไม่รุมอ่อวะ” พี่คังพูดต่อก่อนจะแค่นหัวเราะ ควันบุหรี่พวยพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้าด้านบน มันเป็นสีเทาไม่ต่างจากดวงจันทร์ บรรยากาศชวนน่าอึดอัดเมื่อทุกคนต่างขยับพูดกับคนในแก๊งของตัวเอง หากแต่สายตากลับจ้องมาทางนี้เขม็ง ราวกับว่าจะไม่ให้ต่างฝ่ายต่างได้ขยับตัวตุกติก
“พวกไอ้เหี้ยชานอะ หมาหมู่กี่รอบแล้ว” พี่บี้เสริมต่ออีกหน
เป็นจังหวะเดียวกับที่รถคันใหม่ขับเข้ามาเสริมพอดี ทุกสายตาหันไปจ้องทางนั้นรวมทั้งผมด้วย ก่อนจะพบกับหน้าขาวๆของไอ้หมอกเดินลงมาคนแรก ตามด้วยไอ้อู๋ ไอ้ตี๋ และไอ้เคที่เป็นคนขับ
สภาพของมันยังถือว่าไม่แย่นัก บาดแผลจากการมีเรื่องในตอนเย็นยังเห็นไม่ค่อยชัดเจน วันนี้เจ้าตัวไม่ได้พกแว่นอันน่าเกะกะนั่นมาด้วย พวกมันทั้งสี่คนเดิมมายืนอยู่ตรงกลาง รวมทั้งกลุ่มของพวกพี่ๆมันที่ตามเข้ามาสมทบ
แล้วนั่นก็เรียกให้กลุ่มของผมขยับ.. พวกเราทุกคนต่างก็เดินเข้าไปยืนประจันหน้าด้วยเช่นกัน


20.19 น.
By C


ตู๊ดดดดดดดดด...

ตู๊ดดดดดดดด..

ตู๊ดดดดด

เสียงของโทรศัพท์ที่ดังวนไปเรื่อยๆแต่ไร้การตอบรับทำให้ผมแทบบ้า ในเวลาแบบนี้ผมไม่มีสมาธิที่จะทำอย่างอื่น หลังจากที่คุยกับตี๋เมื่อครู่ ข้อความสุดท้ายที่ได้รับกลับมาก็คือสารที่เขาบอกว่าดิวยืนรออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว และถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ก็ทำให้ผมอึดอัดจนอยากจะร้องไห้
ผมนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง ตาจ้องโทรศัพท์ที่ต่อสายไปเรื่อยๆแต่ไม่มีท่าทีที่เคจะรับ มันอาจจะดูบ้า และไร้ความหวัง ผมรู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่มารับหรอก แต่มันก็หยุดตัวเองไม่ได้
ความเครียดทำให้ผมเผลอกัดเล็บทั้งๆที่เลิกไปได้นานแล้ว สายโทรศัพท์ถูกตัดไปพร้อมกับตัวผมที่หยิบมันมากดโทรหาเคใหม่ แต่มันก็ยังเหมือนเดิมเพราะเขาไม่ยอมรับสาย
จนถึงตอนนี้ผมเริ่มจะเบ้ปาก ภายในห้องนอนเงียบจนรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า เคเขาหายไปไหนก็ไม่รู้ ทักแชทไปมากเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมตอบ ภาพเหตุการณ์ในตอนเย็นที่เขามีเรื่องกับซันยังคงตรึงอยู่ในสมอง
ทั้งคู่ต่อยกันไวมากจนมองไม่ทัน แต่มีจังหวะหนึ่งที่เคถีบซันล้มลงไปและหัวของซันกระแทกเข้ากับเสาใกล้ๆ มันคงแรงมากๆ เพราะเลือดสีแดงข้นไหลลงมาเป็นทาง ต่อจากนั้นหลงก็พุ่งเข้ามาเตรียมจะช่วยเพราะเห็นว่าอู๋กระโดดเข้ามาจากทางด้านหลัง แต่ตี๋ก็พุ่งเข้ามาปะทะจากอีกทางเสียก่อน
ผมก็มองไม่ค่อยจะทัน รู้แต่ว่ามันน่ากลัว และผมไม่ชอบเรื่องแบบนี้
ถ้าจะถามว่าใครผิด มันก็คงเป็นผมเองที่จัดการอะไรไม่ได้ ผมห้ามเคเขาไม่ได้ เขาไม่ฟังอะไรผมเลย ผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนซัน.. ถ้าในฐานะเพื่อนคนหนึ่งผมก็เป็นห่วงเขา เอาเป็นว่าผมไม่อยากให้ใครทะเลาะกัน
แต่เคไม่รับโทรศัพท์ของผมเลย
แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะไปตามเขาได้ที่ไหน
ข้างนอกฝนกำลังจะตกแล้ว
“ฮึก..”
แต่น้ำตาของผมไหลออกมาก่อน ผมกลั้นความกลัวเอาไว้ไม่ไหว ภายในห้องที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงสะอื้นจากตัวของผมเอง มันคลอไปกับเสียงสัญญาณของโทรศัพท์ที่ดังไม่ยอมหยุด เนื่องจากว่าไม่มีคนคิดที่จะกดรับ



21.34 น.
By Erng-Oei


“จนตอนนี้ก็ยังติดต่อมันไม่ได้ใช่มั้ย?”
จูนถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ พอได้ยินแบบนั้นผมก็หลุดออกจากความคิดของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะพบว่าที่ท้องฟ้าด้านนอกมีแต่สายฝนที่สาดเทลงมา ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ฝนมันตก รู้แค่ว่าบรรยากาศเย็นๆในตอนนี้ไม่ได้ช่วยให้ความร้อนในอกของผมลดลงสักเท่าไหร่
ทันทีที่จูนรู้ว่าผมปล่อยให้ดิวออกไปหาเพื่อน เขาก็รีบมาหาด้วยความเป็นห่วง จูนดูเป็นห่วงผมมาก เรื่องนั้นผมรู้อยู่แก่ใจดี ผมแอบขอบคุณเขาอยู่เสมอกับความหวังดีมากขนาดนี้ และถ้าถามว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงกันแน่
...ผมก็ตอบไมได้เหมือนกัน
ผิดหวัง
เป็นห่วง
เสียใจ
ผมไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง
แต่ผมรู้เพียงอย่างเดียวว่าพอเรื่องมันเกิดขึ้น ดิวคนที่ผมไม่รู้จักเลยก็กลับมาอีกครั้ง
ตอนที่เราอยู่ด้วยกันสองคน เขาดูนิ่งและน่ากลัว ผมไม่รู้เลยว่าในหัวของเขาคิดอะไรอยู่ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขารู้สึกแบบไหน แต่ภายในตาคู่นั้นไม่มีผมอยู่เลยสักนิด มันทำให้ผมเข้าใจได้อย่างหนึ่งว่าสิ่งสำคัญที่สุดของดิวคือกลุ่มเพื่อนของเขา
กลุ่มเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมานาน
จะเทียบอะไรกับผมที่เพิ่งรู้จักแค่ไม่กี่เดือน
คำเดียวที่เขาพูดก็คือ ดิวขอโทษนะ
ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบ ส่วนผมเองก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากห้าม แม้ว่าในใจอยากจะรั้งเขาไว้แค่ไหน ผมโคตรจะเป็นห่วงเขาเลย แต่ดูเหมือนดิวจะไม่ได้รับรู้ความรู้สึกข้างใน
ดิวพูดเพียงแค่นั้น และเมื่อเขาเห็นว่าผมไม่พูดอะไร ร่างสูงก็เดินออกจากห้องไป โดยที่ไม่ได้ติดต่ออะไรกลับมาอีก
...ดิวทิ้งผมเอาไว้ด้านหลัง ในขณะที่ผมไม่รู้ว่าควรจะเดินไปทางไหนต่อ และตัวเองมีสิทธิ์ที่จะห่วงเขาได้รึเปล่า
ความรู้สึกทุกอย่างมันมากเกินจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ มันเหมือนคนน้ำท่วมปาก ไม่อยากจะทำอะไรทั้งนั้น แต่ก็หลับไม่ลงเพราะยังคงพะวงว่าเขาจะเป็นยังไง
“กูไม่กล้าโทรไปด้วยซ้ำ”
นั่นเพราะผมกลัวว่าถ้าเขาไม่รับสายอีก ตัวเองจะรู้สึกแย่มากไปกว่านี้ ถ้าดิวได้จับโทรศัพท์เขาก็คงเป็นฝ่ายติดต่อมาแล้วแหละ
หมายถึง.. ถ้าเขาแคร์กันสักนิด
“คิดได้รึยังว่าจะเอายังไงต่อ?”
“แต่กูรักดิวมากๆเลยจูน ..กู” ผมสะอึกไปเพราะกำลังจะร้องไห้ ไม่แน่ใจว่าการที่จูนมาอยู่ตรงนี้มันดีกับผมหรือไม่ แต่นั่นคือสิ่งเดียวที่ผมมั่นใจ
มันแย่มากๆ
ขนาดเป็นอย่างนี้ผมยังไม่อยากให้ดิวหายไปไหนเลย
“มึงรักมันไปได้ยังไงวะ”
“ถ้าไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น มันก็ดีทุกอย่างอะ”
“แต่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นไปแล้วไง มึงต้องคิดดีๆนะว่าจะเอายังไงต่อ จะฝากชีวิตไว้กับคนแบบนี้จริงๆหรอวะ ถ้าวันหนึ่งมีอันตรายเกิดขึ้นกับมึง มึงจะทำยังไง?”
“...”
“ชีวิตมันไม่ใช่หนังแอคชั่นนะเว้ย ไม่ใช่นิยายน้ำเน่าที่พระเอกจะโผล่มาปกป้องมึงได้ตลอดเวลาที่มึงตกอยู่ในอันตรายด้วย ตอนนี้ก็เห็นแล้วว่าศัตรูมันเยอะแค่ไหน ทำไมเพื่อนกูต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงขนาดนั้นวะ”
“...”
“กูว่าพวกรุ่นพี่ของไอ้หมอกไม่จบ แล้วกลุ่มรุ่นพี่ของไอ้ดิวเองก็ไม่จบ มึงไม่เห็นตอนที่ไอ้ซันหัวแตกหรอ ดิวมันโกรธจนเลือดขึ้นหน้า”
“...”
“แล้วถ้ามันยังไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมกันแบบนี้ คิดว่าพวกมันจะทะเลาะกันไปถึงเมื่อไหร่วะ?”
“...”
“พาตัวเองออกมาเถอะเอย”




21.00 น.
By Dew


เรื่องที่เกิดขึ้น คือน้องของมึง มายุ่งกับแฟนน้องกู
อ๊ะๆ มึงพูดผิดนะครับ เพราะไม่มีใครเป็นแฟนกับน้องของมึง แม่งก็แค่คนคุยปะวะ นั่นก็แปลว่าน้องกูมีสิทธิ์ยุ่ง

ประโยคกวนประสาทหลุดออกจากปากของไอ้พี่จัมพ์ตัวตั้งตัวตีในการมีเรื่องในครั้งนี้ นั่นทำให้คนอารมณ์ร้อนอย่างไอ้พี่ชานไม่ยอมทนอะไรอีกต่อไป มันเป็นฝ่ายปล่อยหมัดเข้าที่หน้าของคนกวนประสาทก่อน ตามด้วยเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องมีคำสั่งใด
ต่างคนต่างพุ่งเข้าหากันทั้งๆที่ในตอนแรกวางแผนเอาไว้ว่าจะให้ 1-1 แล้วก็จบเรื่อง แต่อาจเป็นเพราะความบาดหมางที่มีกันมานานเกินไป มันจึงทำให้แต่ละคนมี ไอ้เหี้ยนั่น ที่หมายหัวจะล้างแค้นเอาไว้อยู่แล้ว

ตุบ!

ผลั้วะ!

หมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ใบหน้า ตามด้วยแรงฟาดจากของแข็งที่เกิดขึ้นตรงท้ายทอย เป็นเหตุที่ทำให้ไอ้ซันเซไปอีกทาง ผมพุ่งตัวเข้าใส่คนที่คิดจะลอบกัดเพื่อนสนิท สนับมือที่สวมใส่ในตอนแรกเรียกเลือดจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี ด้วยนิสัยที่เด็ดขาดทำให้ไม่ลังเลที่จะปล่อยหมัดเข้าใส่หน้าของอีกฝ่ายจนมันแตกยับ ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไอ้คนคนนี้คือใคร แล้วนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะสนใจ
จากการตีกันเป็นคู่ จนถึงตอนนี้กลายเป็นว่าใครไม่อยู่ฝั่งเดียวกันก็ซัดมันให้หมด
แผ่นหลังชนกับแผ่นหลัง ทั้งผมและไอ้ซันยืนอยู่ด้วยกันในขณะที่ไอ้เคและไอ้หมอกเองก็จ้องมาทางนี้ สายฝนสาดลงมาท่ามกลางพวกเราแบบไม่ยั้ง เนื้อตัวเปียกปอนไปหมดแต่ก็ไม่อาจหยุดความเลือดร้อนเอาไว้ได้
ไอ้ซันกระชับไม้เบสบอลในมือเอาไว้แน่น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งลอยมาตามลม รอบตัวมีแต่คนฟาดฟันกันอย่างไม่ยอม เสียงตุบตับผสานไปกับเสียงของแข็งที่กระแทกเข้าหากันดังไม่หยุดหย่อน
ด้วยความที่รอบตัวเป็นตึกร้างไม่มีคนเฝ้า ของเก่าๆอะไรที่พอจะเป็นอาวุธได้ก็ถูกหยิบมาใช้งาน ผมเห็นไอ้หลงถูกไม้ฟาดลงที่ตรงท้ายทอย แอบเป็นห่วงมันอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อเห็นไอ้กุลพุ่งเข้าไปถีบไอ้ตี๋จากทางด้านหลังก็ละสายตาออกมาได้ เพราะคิดว่ามันคงจะรอด
“กูจะเตือนมึงครั้งสุดท้าย อย่ายุ่งกับซี” ไอ้เคยกมือขึ้นเช็ดตรงมุมปาก คราบเลือดหยดเป็นทางในขณะที่มันเองก็เริ่มจะหอบ ในขณะที่ไอ้ซันเองก็ถ่มน้ำลายลงกับพื้น กลิ่นคาวเลือดแตกซ่านในช่องปาก ผมมองหน้าไอ้หมอกเพื่อดูว่ามันจะทำอะไรต่อ แม้ว่าเลือดข้นๆจะไหลลงมาบดบังการมองเห็นแต่ผมจะไม่เอามันมาเป็นอุปสรรค
“มึงไม่ใช่ซีก็อย่ามาเสือกสั่งกู”
“ทำไมไม่เข้าใจอะไรง่ายๆวะ ไอ้เหี้ย เขาคือของกู มึงเข้าใจปะ?”
“งั้นมึงก็ให้เขามาบอกกูดิ ว่าเลิกยุ่งกัน”
“...”
“เหอะ ทำได้ปะล่ะ? ถ้าเขาไม่พูด ก็แปลว่าเขาไม่แคร์มึงไง มึงจะมาห้ามอะไรวะ ทำให้เขาเชื่อใจแม่งยังไม่ได้
“พูดมากว่ะไอ้ควย”
ไอ้เคถีบลงมาตรงกลางอกจนผมได้รับแรงกระแทก พอเป็นแบบนั้นไอ้หมอกที่รออยู่แล้วก็ฟาดไม้ลงมาอย่างจังที่ตรงกลางหัว ผมต่อยท้องมันกลับไป ความมึนไม่ใช่เรื่องใหญ่ในเมื่อการเอาชนะคือจุดหมายสูงสุด
หมัดซ้ายแลกกับหมัดขวา ไอ้หมอกต่อยผมจนหน้าหัน ความแรงเรียกให้กลิ่นเลือดโชยอยู่ในปากอีกครั้ง ผมดันมันออกไปให้พ้นทางกดแผ่นหลังกว้างให้ติดกับกับแพงปูนแล้วต่อยสวนเข้าไปที่โหนกแก้มอีกหน
“อุ่ก!” ก่อนที่มันจะหาจังหวะในการเอาคืนด้วยการใส่เข่าเข้ามาตรงท้อง ไอ้หมอกใช้จังหวะที่ผมเผลอขัดตรงขาจนผมล้มลง แล้วมันก็เป็นฝ่ายกดตัวลงมาคร่อมพร้อมกับใช้ไม้ฟาดลงมาไม่ยั้ง
ผมยกแขนขึ้นป้องกัน แรงโทสะทำให้ลืมความเจ็บไปชั่วขณะ ผมต้องหาทางรอดเมื่อพบว่าตัวเองตกอยู่เป็นรอง ก่อนที่เสียงกระแทกจะดังมาจากทางด้านหลัง พร้อมกับใบหน้าของไอ้หลงที่โผล่เข้ามาช่วย
“อั่ก!
“ไอ้เหี้ยทำเพื่อนกู”
มันถีบไอ้หมอกไปไกล ก่อนจะกระชากหัวอีกฝ่ายขึ้นแล้วกระแทกกลับลงไปยังพื้น แต่แล้วตัวไอ้หลงก็ลอยละลิ่วในตอนที่ไอ้ตี๋พุ่งมาดึงออกไปจากทางด้านหลัง มันทั้งคู่แลกหมัดกันอีกครั้งในขณะที่ผมกับไอ้หมอกมองหน้ากันแล้วพุ่งเข้าใส่ต่อ
ผมเหลือบมองไอ้ซันที่กระแทกไม้เบสบอลเข้ากับท้องไอ้เคจนมันกระอัก มันถูกเหวี่ยงไปชนกับกองไม้ที่ใช้ในการก่อสร้าง ก่อนจะเหวี่ยงกลับคืนมากระแทกเข้าใส่หัวของไอ้ซันอย่างจัง
มองไปรอบตัวไม่มีใครยอมใคร และผมเองก็ผละไปช่วยไม่ได้ในเมื่อไอ้หมอกยังคงกัดไม่ปล่อยอยู่แบบนี้
“ออกไปจากโรงเรียนกู”
“มึงสิออก”

พลั่ก!

แรงถีบจากทางด้านหลังของไอ้หมอกเรียกให้ผมพยักหน้ารับ ไอ้พี่เจเป็นฝ่ายเข้ามาช่วย ก่อนที่ตัวผมจะเซไปอีกทางเพราะมันไม่ได้มาคนเดียว แต่กลับลากคนจากฝั่งไอ้เหี้ยหมอกเข้ามาเสริมด้วย
มันชุลมุนมากกว่าที่เคยมีเรื่องเนื่องจากฝีมือก็สูสี อาจเป็นเพราะพวกผมก็ไม่ยอม และพวกมันก็ไม่มีความคิดที่จะให้ตัวเองเป็นฝ่ายแพ้ เสียงสบถยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ผมคว้าคอใครเข้ามาต่อยได้ผมก็ทำ รอคอยจังหวะที่จะเข้าไปเสริมกับไอ้ซันอีกครั้ง ถ้าไม่ติดว่า

แกรบ!

“อ๊ากกกกกกกกกก”
เสียงของไอ้หลงดังมาจากอีกฝั่ง มันดังพอที่จะทำให้ผมหันไปมองแทบจะทันที ผมเห็นมันถูกจับเอาไว้ก่อนที่ไอ้ตี๋จะระดมต่อยเข้าที่ท้อง ในขณะที่ไอ้กุลเองก็โดนลากไปอีกทาง ทำให้มันถูกรุมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ไอ้หลงทรุดตัวลงกุมแขนขวา เพียงแค่มันงอตัวก็โดนเตะเข้าที่สีข้างอย่างแรงแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมพุ่งเข้าไปหาไอ้ตี๋ด้วยความโกรธ คว้าเอาท่อนเหล็กที่อยู่ใกล้มือฟาดเข้าใส่มัน ก่อนจะถูกไอ้อู๋ลากออกไปจากทางด้านหลังแล้วระดมต่อยเข้ามา
เหมือนว่าไอ้หลงจะแขนหัก
“ไอ้เหี้ยพี่เจ ดูมันดิ๊ อุ่ก!!
ผมมัวแต่พะวงกับเรื่องของมันจนไม่ทันได้มอง หมัดหนักๆต่อยเข้ามาใส่หน้า ผมพุ่งสวนเข้าใส่ไอ้อู๋แรงจนรู้สึกได้ถึงความปวดแปลบๆที่ตรงข้อนิ้ว
ไอ้หลงถูกกระชากไปซ้อมต่ออีกครั้ง ในขณะที่พี่เจรีบพุ่งเข้าไปดึงคอเสื้อของไอ้คนอีกฝั่งพร้อมกับไอ้กุลที่รีบดึงมันออกมา
“เฮ้ยแขนหัก เฮ้ยไอ้เหี้ย”
“ไม่ใช่เรื่องของกู!!

พลั่ก!!

“ชิท”


เหตุการณ์ที่วุ่นวายทำให้ผมเริ่มจะตัน หันมองไปรอบด้านเพื่อดูว่าจะหยุดความโกลาหลที่เกิดขึ้นได้ยังไง ไอ้พี่บี้กำลังเป็นต่อ ในขณะที่ไอ้เคขึ้นคร่อมไอ้ซันเอาไว้แล้วต่อยแบบรัวๆจนมันทำได้แค่ตั้งการ์ดรับ
มีคนทั้งเสียเปรียบและได้เปรียบ
แต่ผมไม่รู้ว่าจะไปช่วยได้ยังไง เพราะแม่งไม่สามารถฝ่าไปได้ แล้วก็ยังต้องกันไม่ให้คนมายุ่งกับไอ้หลงก่อนด้วย

ปัง!!

ก่อนที่เสียงปืนจะดังมาจากทางด้านข้าง มันหยุดทุกการกระทำของทุกคนเอาไว้ทั้งหมด ผมหันไปมองตามเสียงนั้น ก่อนจะเห็นไอ้พี่หงส์มันล็อกคอใครบางคนเอาไว้ พร้อมกับในมือที่ถือปืนยิงลงบนพื้น
“บิว!!
ร่างเล็กตัวสั่นระริก ร้องไห้ออกมาในขณะที่พี่หงส์มีสีหน้าเรียบนิ่ง คนคนนั้นอาจจะชื่อบิว ผมไม่รู้หรอกว่าเขาคือใคร แต่ใบหน้าจิ้มลิ้มที่เบ้ลงเรื่อยๆก็ทำให้ไอ้พี่ชานดูเดือดมากกว่าเดิม
“กูบอกให้อยู่ในรถ มึงจะลงมาทำเหี้ยไร!
“ฮึก.. ขอ..ฮึก ขอโทษ”
“บอกคนของมึงหยุด ไม่งั้นกูหักแขนมันแลกกับแขนไอ้หลง ดีปะ?”
“ไอ้ควย มึงเล่นงี้อ่อวะ ขี้โกง สัส” ไอ้พี่ชานเตรียมจะพุ่งเข้ามาหา แต่ทั้งผมและไอ้พี่บี้รุดเข้าไปยืนกันเอาไว้เสียก่อน
“ไม่ใช่มึงอ่อที่โกง ถ้ากูไม่ยิง ไอ้อินเอามีดแทงไอ้ซองไปแล้ว” พี่หงส์บุ้ยปากไปอีกทาง หลักฐานคามือเป็นที่ประจักษ์แก่คนโดยรอบ ก่อนที่ไอ้ซองจะถูกโยนลงไปกับพื้น พร้อมทั้งมีดเล่มเล็กที่ถูกโยนมาทางนี้
“อ้าวไอ้สัส” ไอ้กุลเป็นฝ่ายสบถ
“อยากให้มีคนตายก็แลกกันปะล่ะ” ปืนเล่มเล็กจ่อเข้าที่ขมับ ทำเอาคนโดยรอบตาตื่นกันหมด
“ฮืออออ ชาน ฮึก... ชาน”
“เฮ้ยมึง.. มึงหยุด”
ผมใช้จังหวะนี้เข้าไปพยุงไอ้ซันขึ้นแล้วลูบน้ำฝนออกจากใบหน้า ในขณะที่ความกดดันเกิดขึ้นโดยรอบอีกครั้ง เพื่อรอการตัดสินใจจากคนเพียงคนเดียว
“ปล่อยบิว แล้วพวกมึงจะไปโรงพยาบาลกันก็ไป”
คำพูดนั้นเรียกรอยยิ้มจากพี่หงส์มันได้เป็นอย่างดี ความโรคจิตและความสะใจจากการได้กดดันอีกฝ่ายเผยออกมาแบบปิดไม่มิด นั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้พวกผมอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้
“กูจะเอามันไปกับกู จนกว่าหมอจะรักษาไอ้หลงเสร็จ แล้วมึงค่อยมารับมันไป”
“เหี้ยไรวะไม่เอา ไอ้สัส มึงหยุด”
“เดี๋ยวพวกมึงตามมาป่วนที่โรงพยาบาล”
“ควยไร! กูไม่ไป มึงเอาบิวมา!!!” ไอ้พี่ชานตะโกนก้อง มันชี้หน้ามาอย่างเอาเรื่อง ยิ่งในตอนที่ไอ้พี่หงส์แกล้งกดกระบอกปืนเข้าที่ขมับอีกหนก็ยิ่งทำให้คนมองสติแตกมากกว่าเดิม
“มึงพูดแล้วนะ?”
“เออ กูไม่ไป”

ผลุบ!!!

ร่างเล็กถูกผลักไปด้านหน้า เนื้อตัวแปดเปื้อนไปด้วยโคลนจากน้ำฝนที่นองเป็นแอ่ง รุ่นพี่ที่ชื่อบิวล้มลงไปกองอยู่กับพื้น สองขาคงอ่อนเกินกว่าจะพยุงตัวขึ้นมายืน แล้วคนทั้งหมดก็รีบกรูกันเข้าไปดึงขึ้น
ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปหาคนเจ็บ ผมรีบไปพาไอ้หลงขึ้นรถ ในขณะที่ไอ้กุลเป็นฝ่ายขับในวันนี้ เนื่องจากไอ้ซันเองก็สภาพแย่พอสมควร
“เหยียบให้มิด อดทนไว้ก่อนมึง”
“เจอกันโรงบาล”
“เคพี่ เจอกันโรงบาล”
และเรื่องราวในวันนี้
ก็คงจะจบลงแบบไม่เคลียร์อีกตามเคย...


22.57 น.
By Erng-Oei

เวลาแต่ละนาทีผ่านไปนานจนทรมานใจ ผมเดินไปรอบๆห้องในขณะที่จูนเข้าไปอาบน้ำ ยอมรับว่าหาอะไรทำฆ่าเวลาแล้ว แต่ไม่สามารถละสมาธิออกจากเรื่องของดิวได้เลย จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่ติดต่อกลับมา แต่ละข้อความที่ผมส่งไปหาเขาก็ยังไม่ถูกเปิดอ่าน
ดิวจะเป็นยังไงบ้างผมก็ไม่อาจรู้ได้
แต่เมื่อตัดสินใจโทรไปหาเขาอีกครั้ง ผมก็พบว่าโทรศัพท์ของเขาปิดเครื่องไปแล้ว และนั่นก็ทำให้รู้สึกกังวลมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
ผมไม่รู้ว่าจะทักไปหาใคร ภายในใจไม่กล้าที่จะวุ่นวายกับอะไรทั้งนั้น พอจูนหายเข้าไปอาบน้ำ ความอัดอั้นที่เก็บเอาไว้ในตอนแรกก็โถมเข้ามา เกิดเป็นหยดน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
ผมร้องไห้อีกแล้ว
คราวนี้ตอบตัวเองไม่ได้ว่าร้องออกมาทำไม
ความกังวลใจข้างในอกมันไม่ยอมนิ่งสักที ผมเป็นห่วงเขาเกินกว่าคำว่าโกรธเสียอีก และมันก็นานมากๆแล้วด้วย ทำไมป่านนี้ยังไม่ยอมติดต่ออะไรมาเลย
เขาไม่คิดถึงใจของผมบ้างหรอ แม้สักนิดก็ไม่มีการส่งข้อความมาบอกเลย ขอแค่เขาตอบกลับมาว่าเขาอยู่ที่ไหน แค่นั้นมันก็ดีมากๆแล้วสำหรับผม แต่ไม่เลย
โทรศัพท์มันนิ่งมากจนผมคิดไปเองว่าเน็ตของผมเสียรึเปล่า แต่มันก็ไม่ใช่
ผมจะบ้าแล้วจริงๆ ให้ตายเถอะ
“เอย”
ผมรีบยกมือขึ้นมาเช็ดหน้าในตอนที่เห็นจูนเดินออกมา สีหน้าของเขาดูจะเป็นกังวล แต่บอกตรงๆว่าในตอนนี้ผมไม่พร้อมที่จะโดนเขาด่าหรืออะไรทั้งนั้น
“อย่าเพิ่ง.. พูดอะไรได้มั้ยวะ” ผมพูดเสียงเบา จูนเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ผมรู้ว่าเขามีหลายอย่างที่จะพูด แต่ก็นั่นแหละ
ผมไม่อยากฟัง
จนสุดท้ายจูนก็เป็นฝ่ายเข้ามากอดผมเอาไว้ เพียงแค่อ้อมกอดอุ่นๆจากเพื่อนสนิทก็ทำให้น้ำตาที่กลั้นในตอนแรกทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก
ผมไม่ไหวแล้ว
ดิว
อยู่ที่ไหน
ผมห่วงเขาจนจะบ้าแล้ว
เมื่อไหร่จะติดต่อกลับมาซักที
ผมไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว



23.29 น.
By C

(ฮัลโหล)
เสียงจากทางปลายสายทำให้ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่รู้ว่ามันสมควรหรือไม่ แต่ก็ขอบคุณจริงๆที่เขากดรับสาย หลังจากที่โทรไปหาเคนานมากและไม่มีการตอบกลับ ไม่ว่าจะพวกหมอก ตี๋ หรืออู๋ ก็ไม่มีใครตอบแชทผมสักคน เพราะฉะนั้นตัวเลือกสุดท้ายของผมจึงเป็นเขา
“ซัน”
(ครับ ซี)
“อยู่ที่ไหนกัน อยู่ที่ไหน”
(ซันอยู่โรงบาลครับ มีคนเจ็บ)
คำว่า มีคนเจ็บ ทำให้ใจยวบไปในทันที ผมเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น เพราะได้ยินเสียงพูดคุยของใครหลายๆคนที่ดังเข้ามาแทรกในสาย จึงทำให้ไม่ได้ยินเสียงที่ชัดเจนนัก
“ซันอยู่โรงบาลอะไรอะ”
(โรงพยาบาล XXX ครับ)
“ไกลมั้ย มันไกลมากมั้ย”
(ไม่ไกล ซี แบตของซันจะหมดแล้ว)
“ซันส่งโลเคชั่นมาให้เราหน่อยได้มั้ย ตอนนี้อยู่กับพวกของเครึเปล่าอะ ซัน...”

ตู๊ด.. ตู๊ด.. ตู๊ด..

สายจากทางเขาตัดไปแล้ว ผมเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องนานเสียจนไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อ ยอมรับว่าคำพูดของเขาโคตรจะมีอิทธิพลกับใจ เป็นเพราะผมติดต่อเคยังไม่ได้ ในหัวมันก็เลยจินตนาการไปไกลมากเกินกว่าที่จะฉุดรั้งเอาไว้ได้
ผมไม่ค่อยได้ออกบ้านตอนกลางคืน ยกเว้นตอนที่พวกเอยชวนไปเที่ยว
ความจริงคนที่บ้านก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เนื่องจากเขาเป็นห่วง แต่วันนี้ผมเลือกแล้วว่าจะไม่ยอมอยู่เฉยๆแน่
คุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่เข้านอนเลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่าพวกเขาเอ่ยค้านและเรียกผมเอาไว้ แต่ผมกลับไม่ได้ตอบเนื่องจากว่ากำลังต่อโทรศัพท์ไปหาเอยอยู่
(ฮัลโหล)
“ซันบอกว่าพวกดิวอยู่โรงพยาบาล”
(ฮะ?)
“มึง กูกำลังจะไปที่นั่น”



00.58 น.
By K

ฝนยังคงตกลงมาเรื่อยๆแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ผมก้าวลงจากรถโดยที่ไม่กลัวว่าจะเปียก เนื่องจากทีแรกมันก็แย่มากพออยู่แล้ว
พอกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงผมก็ถึงได้รู้ว่าที่โดนมาก็สาหัสไม่น้อย ตัวของผมปวดไปหมด ภายในปากมีแต่กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง แถมหัวยังโคตรมึนเนื่องจากโดนกระแทกมาหลายที
เอาเป็นว่าตอนนี้ยังเดินไม่ค่อยตรง แต่เพราะโทรศัพท์ของผมติดไปกับไอ้ตี๋ มันเองก็แยกไปโรงพยาบาลเพราะกลุ่มรุ่นพี่ของเรามีคนหัวแตก และนิ้วหัก
ตัวผมเองก็อยากจะไป แต่ผมยืมรถของพี่อินขับมาหาแว่นเขาก่อน เนื่องจากกลัวว่าเขาจะเป็นห่วง
บ้านทั้งหลังยังคงเปิดไฟจ้า แต่ตรงห้องนอนของเขากลับมืดสนิท ผมไม่รู้ว่าแว่นนอนหลับไปรึยัง ในใจมันรู้สึกโหวงแปลกๆ และเพราะไม่รู้ว่าจะทักไปบอกเขาได้ยังไง ทางเลือกเดียวที่ผมพอจะทำได้ก็คือตัดสินใจกดออดที่ตรงหน้าบ้าน
รออยู่ไม่นานบานประตูก็ถูกเปิดออก หากแต่ใบหน้าของหญิงสาวก็ทำให้ผมใจแป้วลงไปเสียสนิท
แว่นไม่ออกมา.. เป็นแม่บ้านของเขาแทนที่กางร่มและกำลังเดินมาทางนี้
“คือ..แว่น หมายถึงซี..”
“คุณหนูไม่อยู่ค่ะ คุณเค.. ตายแล้ว!! ไปโดนอะไรมาคะเนี่ย”
“ซี ไปไหนครับ?”
“คุณซีออกไปข้างนอกค่ะ เห็นพูดถึงคนชื่อซัน”
“...”
ในใจของผมเหมือนถูกบีบอย่างหนัก เพียงแค่ได้ยินชื่อของมันความรู้สึกหลากหลายก็ถาโถมเข้ามามากจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้
หมายความว่าไงวะ
ออกบ้านไปในเวลาแบบนี้กับไอ้ซันเนี่ยนะ??
“คุณเค จะเข้ามาข้างในก่อนมั้ยคะ หรือป้าควรจะเรียกรถพยาบาล หรือว่า..”
“ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมกลับแล้ว”
“แต่ว่าคุณเค เข้ามาเปลี่ยนเสื้อก่อนมั้ยคะ”
“ไม่ครับ ขอบคุณมาก” ผมตอบแบบนั้น ก่อนจะหันหลังเดินออกมา ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะโมโหหรือเสียใจก่อน ผมยอมรับว่าอารมณ์มันตีกันไปหมด ทุกครั้งที่เห็นว่าซีไปกับไอ้เหี้ยนั่น ข้างในอกมันก็รู้สึกร้อนๆทุกที
ใช่ ผมหวง
แต่มันไม่ได้มีแค่ความหวง
ข้างในมันเต็มไปด้วยความกลัวจนผมอยากจะร้องไห้ ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงให้เขาเห็นว่าผมรักเขาแบบโคตรๆ มันมากกว่าที่เคยรู้สึกกับเอยเสียอีก
ในตอนนี้ผมเป็นอะไรสำหรับเขาวะ ถ้าจะใช้คำว่าคนคุยกัน.. เขาก็ควรจะมีผมแค่คนเดียวรึเปล่า ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่แฟน แต่ถ้าเขายังเปิดโอกาสให้ไอ้ซันมันแบบนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่มีผมเอาไว้เป็นตัวเลือกไม่ใช่หรอ
เขาไม่มั่นในใจตัวผม
ในขณะที่ผมเองก็วางใจไม่ลงว่าเขาจะไปกับไอ้ซันรึเปล่า ยิ่งเอยเป็นแฟนกับไอ้ดิว แล้วไอ้ซันมันคือเพื่อนสนิท ผมก็กลัวไปหมดอะว่าใครจะพูดอะไรกับเขาบ้าง
ที่รู้ๆคือผมเสียเขาไปไม่ได้ แต่ผมก็หวงเขาไม่ได้เหมือนกัน แม่งโคตรจะเกลียดสถานะของตัวเองที่เป็นอยู่ตอนนี้เลย ทำไมเขาไม่ชัดเจนกับผมสักทีวะ
ทำไม..

ปึก!

“เค!!
ห้วงความคิดของผมหยุดลงเนื่องจากมีรถคันหนึ่งเคลื่อนเข้ามาใกล้ บานประตูถูกเปิดออกทั้งๆที่มันยังจอดไม่สนิทเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่เสียงของคนคุ้นเคยจะดังเข้ามาในหัว พร้อมทั้งร่างเล็กๆที่รีบวิ่งเข้ามากอดผมอย่างแรง
“โอ๊ย..”
เขารัดผมแรงมากจนเซไปด้านหลัง ซีกอดผมแน่นมากราวกับว่ากลัวผมจะหายไป เขาร้องไห้ออกมาทันทีโดยที่ไม่กลัวว่าตัวเองจะเปียก ท่ามกลางสายฝนที่สาดลงมาหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมกลับได้ยินเสียงร้องไห้ของเขาอย่างชัดเจน แล้วนั่นก็ทำให้ผมสวมกอดเขาตอบอย่างไม่รอช้า
“ฮึก หายไปไหน.. ฮือออ หายไปไหนมา”
“แว่นออกไปไหนมา” ผมถามเขาตอบ สายตาจ้องไปยังรถคันที่จอดอยู่ตรงหน้า แสงไฟที่สะท้อนเข้าตาทำให้ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน คนในรถไม่ได้ทำการดับมันลงด้วยซ้ำ แต่ผมก็พอจะเดาได้ว่ามันคือใคร
“เราไปหาเค แต่ ฮึก..”
“มันมาส่งใช่ปะ”
“ซันบอกว่าเคไม่ได้อยู่..อึก ด้วย ซันบอกว่า.. ฮึก เค ฮืออ ทำไมมีแต่เลือด ฮึก.. เค เจ็บมั้ย เค” เขาแตะมือลงบนหน้าก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ ตาของซีแดงก่ำ เนื้อตัวของเราทั้งสองคนเปียกแฉะไปด้วยน้ำฝน แล้วมันก็คงไม่ดีถ้าจะปล่อยให้เขายืนอยู่ตรงนี้
“เข้าบ้านกัน”
“ไม่เอา เค..ไปโรงบาล ฮึก”
“หยุดร้องได้แล้วครับ เคอยู่นี่ไง”
“ไม่เอา ไม่เอา เค ทำไมช้ำไปหมดแบบนี้อะ ฮือ”
เขาร้องไห้เหมือนเด็ก ซีตาแดงก่ำและส่ายหน้าไม่ยอมท่าเดียว เขารีบดึงมือผมเดินไปยังรถ ร่างเล็กเป็นฝ่ายคลำหากุญแจที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของผม แต่เขาก็ไม่เจอ
“เคขับรถได้มั้ย เราให้ซันไปส่งนะ เค ไปโรงบาลนะ”
“ไม่ไป แว่นเปียกงี้จะไปได้ไง เข้าบ้านก่อน”
“ไม่เอา”
“ดื้อ”
“เคนั่นแหละดื้อ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ถ้าเคเป็นไรไปเราจะทำยังไงอะ เค..อื้อ”
ผมตัดสินใจปิดปากเขาด้วยจูบ ร่างเล็กชะงักไปในทันทีที่ริมฝีปากของเราแนบกัน ซีครางท้วงออกมาสั้นๆ แต่เมื่อผมรั้งท้ายทอยของเขาเอาไว้แล้วเบียดริมฝีปากเข้าหาอีกหน สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เอียงหน้าหลบแล้วเป็นฝ่ายจูบตอบกลับมา
เสียงรถขับผ่านไปทางด้านหลังดังเข้ามาในหู ผมผละจูบออกพร้อมกับหันไปมองที่ตรงจุดเดิม รถคันดังกล่าวไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว มันทำให้คิดไปเองว่าไอ้คนที่นั่งอยู่ด้านในไม่ได้อยากจะเห็นภาพเมื่อครู่สักเท่าไหร่
ให้ทายว่ามันคงจะบาดตาบาดใจ
แต่ก็คง..
ตอกย้ำความชัดเจนได้บ้างล่ะครับ



01.41 น.
By Dew


ไอ้ซันออกไปส่งซี
ส่วนไอ้หลงยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัด
บรรยากาศของโรงพยาบาลที่ว่าแย่อยู่แล้วกลับแย่ลงไปอีกเมื่อเอยกับจูนพากันมาที่นี่ พวกเราทั้งกลุ่มมองหน้ากันด้วยสายตาที่แสนจะงงงวย แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรออกมา
จูนดูหวาดกลัวกับสิ่งที่เห็น ก็แหงล่ะสิ.. สภาพของทุกคนเรียกได้ว่าแทบจะดูไม่ได้ แม้ว่าพวกเราจะได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เสื้อผ้าที่เปียกปอนและเต็มไปด้วยดินโคลนยังไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากไม่มีใครอยากไปจากโรงพยาบาล เพราะไอ้หลงยังอยู่ข้างในนั้น
ผมมองหน้าเอยแบบนิ่งๆ ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาเหมือนกัน นัยน์ตาของร่างเล็กแดงก่ำ ดูก็รู้ว่าผ่านการร้องไห้หนักมากขนาดไหน แล้วนั่นก็ยิ่งตอกย้ำให้ผมรู้สึกผิดมากกว่าเดิมซะอีก
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่คนในกลุ่มของผมไม่เคยมีแฟน
ที่ผ่านมาผมเองก็ไม่เคยมี แล้วก็ไม่คิดที่จะมี เพราะคำบอกกล่าวของรุ่นพี่ได้เล่าขานกันมาให้ฟังว่ามันแย่ยังไง กับการที่ต้องแบกรับความรู้สึกของคนคนหนึ่งที่เขาเป็นห่วงเราแทบจะขาดใจ แต่เรากลับทำตามคำขอของเขาไม่ได้ แล้วเราก็อาจจะดูแลเขาไม่ได้เช่นกัน
ภาพของพี่บิวคนนั้นแทรกเข้ามาในหัว
ผมไม่รู้ว่าพี่คนนั้นมีความสัมพันธ์แบบไหนกับไอ้พี่ชาน แต่ก็คงจะสำคัญอยู่พอสมควรถึงได้โดนสั่งให้หลบอยู่ในรถ ไม่ออกมามีเรื่องกับคนอื่นๆ
ไม่รู้ทำไม แต่จู่ๆผมก็จินตนาการไปว่า.. ถ้าเอยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ผมควรจะทำยังไงดี
ถ้าเอยโดนจับไปบ้าง ผมคงจะทนไม่ไหว
เพียงแค่เห็นเอยยืนอยู่ตรงนี้ผมก็แทบจะบ้า เอยมองมาด้วยสายตาผิดหวัง ยิ่งเห็นสภาพของผมเอยก็ยิ่งเป็นห่วง มันทำให้ผมคิดว่าคนแบบเขาไม่สมควรจะมาเจอกับเรื่องแบบนี้
ผมควรจะหยุด
แต่..

ไอ้พวกนั้นไม่จบแน่ ดิว มึงเลี่ยงไม่ได้ว่ะ
ไอ้เหี้ยหลงก็เป็นแบบนี้ กูไม่ยอมนะบอกเลย พวกเราเจ็บกว่าได้ไงวะ ไอ้เหี้ยซันแม่งก็หัวแตก ไหนจะมือมึงอีก
กูไม่ได้เปิดก่อนด้วย ไอ้สัสชานนั่นแหละกวนส้นตีน
แล้วไอ้หงส์ไปลากบิวมันมาได้ไงวะ
กูงัดรถแล้วลากออกมา
เออ ไปแตะคนของมัน คิดว่ามันจะยอมหรอ
ดิว กูพูดตรงๆนะ ถ้ามึงจะอยู่โรงเรียนแบบสงบๆได้อีกปี มึงต้องกดพวกไอ้เหี้ยหมอกลง
มันก็ต้องเป็นแบบนั้นปะวะ ไอ้ดิว ให้กูไปขอโทษพวกมัน กูไม่ยอมนะ ให้ย้ายออกกูก็ไม่เอาด้วย เสียหน้าชิบหาย
มันนัดเคลียร์กับพวกกูนะ เรื่องนี้อะ
มึงจะเอาไง มาอยู่กับกูก่อนก็ได้ กลับบ้านสภาพนี้พ่อมึงไม่น่าจะโอเค

คำพูดที่เคลียร์กันในตอนแรกยังคงวนอยู่ในหัว มันทำให้ผมรู้ดีอยู่แก่ใจว่ายังไงเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะจบ
แต่ในเมื่อเริ่มแล้วมันก็ต้องหาจุดสิ้นสุดให้ได้ และตัวผมเองก็ไม่อยากจะยอมแพ้ ผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ต้น แม้ว่าเอยจะเบรกอารมณ์ร้อนๆไปได้ช่วงหนึ่งก็เถอะ แต่มันกลับไม่พอเมื่อผมเห็นว่าคนในกลุ่มโดนอะไรหนักแค่ไหน

เพื่อน
กับ
แฟน

ไม่ใช่ว่าผมไม่รักเอย แต่ถ้าให้ต้องเลือกจริงๆ
ผมก็ทิ้งเพื่อนเอาไว้ข้างหลังไม่ได้
คำตอบที่อยู่ในหัวบอกให้รู้ว่าบางทีผมอาจจะต้องเลิกกับเอย แต่พอเห็นหน้าเขา..
ผมก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อ
“ดิว..”
เอยเป็นฝ่ายเรียกก่อน แล้วนั่นก็ยิ่งทำให้บรรรยากาศรอบตัวอึดอัดมากกว่าเดิม ผมเหลือบตาขึ้นไปมองหน้าร่างเล็ก เสี้ยววินาทีที่สบตากัน ผมก็เห็นน้ำใสๆเอ่อล้นอยู่ตรงเบ้าตานั้นจนเต็ม
“ไปคุยกันข้างนอกมั้ยครับ?” ผมเกริ่น แล้วนั่นก็ทำให้น้ำตาของเอยร่วงเผาะ
ให้ตาย ผมอยากจะดึงเขามากอดนะ แต่สถานการณ์ตรงนี้ผมไม่อาจทำแบบนั้นได้
โชคดีที่จูนยอมปล่อยให้เอยเดินออกมากับผมแค่เพียงสองคน ร่างเล็กยกแขนขึ้นกอดอกอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ผมเอนหลังพิงกับขอบระเบียงของโรงพยาบาลแล้วก้มลงมองเท้าของตัวเอง
ผมไม่กล้ามองหน้าเอยหรอก
“เจ็บมั้ย?”
แล้วก็เป็นเอยอีกนั่นแหละที่เอ่ยถามก่อน น้ำเสียงที่แสนจะเป็นห่วงของเขาทำให้ผมใจยวบไปหมด เอยเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ มือเล็กนั้นยกขึ้นปาดน้ำตาของตัวเองท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่ได้ทุเลาลงจากเดิม
เขาไม่กล้าขยับเข้ามาหาผม
ส่วนผมก็ไม่กล้าขยับเข้าไปหาเอยเหมือนกัน
“ดิวรักเอยมากๆนะ”
ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงเลือกที่จะพูดคำนั้น แต่มันกลับทำให้เอยร้องไห้ออกมาอีกหน เขายกมือขึ้นปิดปากของตัวเองแล้วรีบส่ายหน้า
“ดิวบอกรัก แต่เหมือนจะบอกเลิกเลย”
“ขอโทษครับ”
“...”
“แต่ดิวว่าดิวก็ไม่น่าดึงเอยเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้จริงๆอะ”
“พูดแบบนี้คืออะไร?” เอยแทรกขึ้นมาในทันที คำถามของเขาทำให้ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ มันกดดันมาก แล้วก็พูดออกไปยากกว่าที่คิด สาบานเถอะว่าภายในใจของผมก็พังไม่แพ้กัน แต่ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
“เอยบอกเองว่าเอยไม่ชอบ.. คนแบบดิว”
“ก็ไม่ชอบไง แต่ถ้าดิวเป็นแบบนั้นอะ เอยก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีไม่ใช่หรอ?”
“ก็มันฝืนไปหมดไงครับ” ผมเบือนหน้าหนีไปอีกทาง “ตอนนี้เอยก็ไม่ได้พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่ถึงแม้ว่าดิวจะให้คำสัญญาแบบไหนกับเอยเอาไว้ ดิวก็รู้ตัวเองแล้วว่ายังไง ดิวก็ทำให้เอยสบายใจไม่ได้อยู่ดี”
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง”
มันยากมากๆที่จะต้องยอมรับว่าเราทั้งสองคนเข้ากันไม่ได้
พอถึงจุดจุดหนึ่งที่เราต้องกลับมาอยู่ในโลกของตัวเอง ผมก็ลำบากใจเหมือนกันที่ต้องเลือกสักทาง และแน่นอนว่าผมจะไม่มีทางดึงเอยเข้ามาอยู่ในโลกที่แสนจะอันตรายนี้แน่ เพราะเขาไม่ควรที่จะแปดเปื้อนไปกับคนแบบผมอยู่แล้ว
ผมไม่น่าเข้าหาเขาตั้งแต่ทีแรก
เหมือนอย่างที่พวกรุ่นพี่เคยบอกเอาไว้
ทุกคนเตือนแล้วว่าพวกเราไม่ควรจะมีความรัก แต่อาจจะเป็นเพราะผมคือหัวหน้าแก๊ง และพวกเพื่อนๆมันก็รู้ดีว่าห้ามผมเอาไว้ไม่ได้หรอก ถึงได้ปล่อยให้มันเลยเถิดมาจนถึงตอนนี้
“เอย”
“ไม่เอาดิว ดิวอย่าพูดออกมานะ”
“ดิวว่ามันถูกต้องแล้วนะ”
เพราะเขาทำให้ผมลังเล ตอนนี้ผมเจ็บโคตรเลย เจ็บมากกว่าตอนที่โดนต่อย เจ็บกว่าตอนที่โดนตี ผมอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แต่มันก็หาทางออกทางอื่นไม่เจอเช่นกัน
“ถูกต้องคืออะไร ดิว ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้อะ”
“...”
“ดิวไม่รักเอยหรอ”
“ก็เพราะรักไงครับ เลยคิดว่าแบบนี้แหละดี” ผมเม้มริมฝีปาก เอยร้องไห้ออกมาหนักมาก แล้วผมก็ต้องใช้ความพยายามที่เยอะพอสมควรในการห้ามตัวเองเอาไว้แบบนี้
มีหลายครั้งที่ผมอยากจะดึงเอยเข้ามากอด แต่พอเถอะ ตราบใดที่ปัญหามันยังไม่จบ วันข้างหน้าเอยก็ต้องมาร้องไห้ต่อหน้าของผม และก็ต้องกังวลใจแบบในวันนี้อยู่ดี
“เลิกกันนะครับ”
“ดิว..”
“ดิวคิดดีแล้วแหละ ดิวไม่ควรคบกับคนดีๆแบบเอยหรอก”
การบอกเลิกทั้งๆที่ในใจยังรักอยู่
ทำไมมันเจ็บจังครับ


talk : ยาวมาก ไปนอนแปป555555
tag #ดิวเด๋อ 

ความคิดเห็น

  1. อ่านตอนนี้แล้วร้องไห้เลยอ่าา

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. ฮืออออออไม่เอาไม่เลิกกกคุณแนนนนนนนนนน

    ตอบลบ
  4. กรี้ดดดดด ฮืออออออ ไม่เอาๆๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  5. กรี้ดดดดด ฮืออออออ ไม่เอาๆๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  6. หื้ออ ไรท์ ทำไมตัดไปแบบนี้รุ้ไหมเค้าร้องไห้แล้วน่ะ ไม่เลิกไม่ได้อ่อ หื้อ ร้องไห้เลย ใจหวิวๆ สงสารทั้งดิวทั้งเอย สงสารทุกคน แต่ไรท์จะมาตัดจบแบบนี้ให้เราเสียใจไม่ได้น่ะไรท์ หื้อ ทำไม ตอนนี้มันหน่วงขนาดนี้ ทำไมต้องเลิกกัน ทำไม หื้อ 😭😭

    ตอบลบ
  7. หื้ออออ ทำไมมันหน่วงอย่างนี้

    ตอบลบ
  8. ฮือออออออ จะร้องไห้ TT

    ตอบลบ
  9. เจ็บมาก ๆ เลยค่ะ สุดท้ายก็จบแบบนี้จริง ๆ สินะคะ เพิ่งกลับมาคบกันได้ไม่เท่าไหร่เอง ความรักของทั้งคู่จะจบแบบนี้เหรอ เอยไม่ยอมจบได้ไหม ขอเป็นคนอ่านที่เห็นแก่ตัว ไม่เข้าใจดิวและเอยได้ป้ะ เอยยอมรับที่ดิวเป็นแบบนี้ได้มั้ยอะ เพราะถ้าเลิกกันรอบนี้ มันก็แปลก ๆ ที่จะมีการรีเทิร์นรอบสามนะ แต่ถ้าคบกันไปแบบนี้ก็มีแต่เจ็บ มีแต่ความไม่สบายใจ เฮ้อ จะร้อง
    .
    เคซีถือว่าจบได้ยังอะ ห่วงเคขนาดนั้น เคก็มาหาที่บ้านทั้งที่เจ็บขนาดนั้น ซันก็ได้เห็นแล้วว่าตัวเองไม่มีโอกาสเลย น่าจะจบประเด็นเรื่องซีได้แล้วไหม ที่เหลือก็คงเป็นความแค้นส่วนตัว
    .
    ฉากตีกันดีมากค่ะคุณไรต์ คิดตามว่าตอนคุณไรต์แต่ง ภาพในหัวต้องสับสน ชุลมุนวุ่นวายมากแน่ ๆ เราเราอ่านยังอินเลย แบบอยากกระโดดเข้าไปร่วมแจม หมั่นไส้พี่ชาน โคตรไร้มารยาท คุยกันยังไม่ทันจบ ดันเปิดก่อน (ทำไมเหมือนด่ารุ่นพี่ที่ใช้เทคนิค 3 วิ แหะ)
    .
    เห็นจูนห่วงเอย คอยอยู่กับเอยในเวลาแบบนี้ก็เข้าใจความรู้สึกจูนนะ แต่อย่างที่บอก ไม่อยากให้จูนไปกำหนดชีวิตใคร คือคำแนะนำดีหมด ชี้ให้เห็นปัญหาที่ตามมาถ้าคบกับดิว แต่ไม่น่าจบด้วยการบอกเอยถอยออกมา ให้เอยเป็นคนตัดสินใจเถอะนะจูนนะ
    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  10. ดารม่าแล้ว เฮียหลงของฉันงื้อออ รอตี๋หลงอยู่จ้าา แต่เหมือนจะยากเลย มีเรื่องกันแล้วด้วย ถ้าจะให้หวั่นไหวคงจะ18+แน่เลย คงต้องรอ คือชิปบินกุกมากๆ เมนฮยอนบินกับยงกุกด้วยงื้อออออ รอจ้า ตี๋หลง

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. รอตี๋หลงด้วยค่าาาาาาาา ขอรี

      ลบ
  11. ฮืออออ อึดอัดๆๆๆ บีบหัวใจมากกก แง้

    ตอบลบ
  12. ฮือออออ ไม่ได้ งือออออ สงสารทั้งคู่เลยย

    ตอบลบ
  13. ไม่เลิกได้ไหมอะดิว ฮึก

    ตอบลบ
  14. ก็คิดแล้ว ถ้าห่วงเพื่อนมากกว่าแฟนยังไงก็ต้องเลิก และเอยก็จะไม่โดนลูกหลงเหมือนบิว แล้วเคกับซีละ

    ตอบลบ
  15. ไม่เลิกกได้ไหมมมมม

    ตอบลบ
  16. ทำไมเป็นแบบนี้ง่ะ ฮืออออออ

    ตอบลบ
  17. แงงง ไม่เอา ไม่เอานะ ไม่เลิกนะ แงงงงงง 😭😭😭😭😭

    ตอบลบ
  18. อยากให้เขาดีกันเเล้วว ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยไรท์😂

    ตอบลบ
  19. น้ำตาเเตกเป็นเขื่อนแตกเลยค่ะ😭😭😭😭

    ตอบลบ
  20. นำ้ตาพรากฉากจูบของคุนเคกับคุนซีนี้ละลายเลยตู

    ตอบลบ
  21. โครตหน่วง โครตอินนนน แบบเป็นฟิคจอยเรื่องที่สองที่อินมากๆ แต่งได้ดี เนื้อเรื่องไม่รู้สึกขาดเลย สู้ๆนะค่ะไรท์

    ตอบลบ
  22. อินมากกก อะไรคือบอกเลิกกก...!!! คิดมากไปนะลูกก ไม่เอาไม่เลิก😢 เอยสู้สิคะะะ วันไหนดิวมีเรื่องอีกก็ต่อยซ้ำเลยลูกกก

    ตอบลบ
  23. สงสารทั้งคู่เลย 😭😭

    ตอบลบ
  24. โอ้โหหหหหหหห พูดไม่ออกเลย ทำไมอ่าา ทำไมเป็นแบบนี้หละดิว สงสารเอย ฮืออออออ

    ตอบลบ
  25. ไรท์ไม่เอา ฮืออ ไม่ไหวแล้ว

    ตอบลบ
  26. ข้าจะรอโมเม้น ตี๋หลง ดูเหมือนจะยากที่จะมีแต่รอ

    ตอบลบ
  27. จะทะเลาะกันทำไมนะ ไม่เห็นมีใครมีความสุข เจ็บทุกทางอะ ปัญหาที่แก้ไม่ได้แล้วก็ดึงคนที่ไม่รู้เรื่องมาเกี่ยว พอเห็นว่าแก้ไม่ได้ก็ผลักคนที่เคยดึงเขาเข้ามาออกไปแบบง่ายๆ รู้นะว่าดิวก็เสียใจแล้วเอยแล้วซีอะ โอ้ยยยยยเครียดเด้อ

    ตอบลบ
  28. ,No!!! I ทำไมทำแบบนี้..ฮือออหนูเอยลูก..ดิววววทำไมทำแบบนี้...ไม่เอาหน่วงแบบนี้สิ..งือออ

    ตอบลบ
  29. หน่วงอ่ะ ร้องไห้เลย เป็นไปได้ไง ฮือออ

    ตอบลบ
  30. รู้สึกรำคาญเคซีหน่อยๆ งือน้องบิวลูก

    ตอบลบ
  31. น้ำตาแตกเยยยยยย😭

    ตอบลบ
  32. ดิวต้องเจ็บในใจมากเเน่ๆเลยยยยยย😢

    ตอบลบ
  33. เอามีดมาแทงเถอะ T T

    ตอบลบ
  34. ไรท์ สุดยอดอะ รายละเอีนดต่างๆตอนตีกันเขียนจนเหนภาพตามเลย แต่ไรท์...อย่าตัดจบแบบนี่ คนอ่านจะขาดใจเอาได้นะ ฮือออ.ยาวแค่ไหนก้อ่าน.....ตอนต่อไปต่องรออีกนานแค่ไหนนนนนนนน

    ตอบลบ
  35. หือไม่เอาไม่เลิกฮื้ออร้องไห้ตามแล้ว😢😭

    ตอบลบ
  36. ตี๋หลง ได้กันๆๆๆๆๆๆ แงงงง เราเข้าใจดิวนะ ถ้าไปต่อเอยอาจจะอยู่ในอันตรายก็ได้ ดิวเองก็ดูฝืนๆด้วย ฮือออออ แต่ตี๋หลงนี่ได้กันเถอะะะ ได้กันนนนนน

    ตอบลบ
  37. ฮึก..ทำไม.ต..ต้องเป็นงี้ เอย..ม
    ไม่ร้องนะ ท่านดิวรักเอย เ้ต่มันถ฿กต้องเเล้วนะ ฮีกก

    ตอบลบ
  38. สงสารซัน ความสัมพันธ์แบบนั้นมันมีจริงๆนะ ทั้งที่ตัวเองต้องเจ็บปวดหัวใจมากมายขนาดไหน แต่ก็มาส่งเขาให้คนที่เขาชอบอ่ะ แบบห่วงก็ห่วงแต่ก็ยอม เราเข้าใจดิวด้วย ความรู้สึกที่เพราะรักถึงเลิก แบบว่าก็ไม่อยากให้เขามีอันตรายจริงๆ ไม่อยากให้เสียใจอีก เพราะคำสัญญาหรืออะไรแบบนั้น เข้าใจดิวเลย เข้าใจเอยด้วย

    ตอบลบ
  39. หือออออออออออ T^T ไม่เอาาาาาาาา

    ตอบลบ
  40. เห้อๆๆๆๆ ถอนหายใจเท่าไหร่ก็ไม่หายดิวก็ทำถูกนะแต่เอยก็ไม่ได้ว่าอะไรอ่ะเอยก็รักของเอยอ่ะใครห้ามเอยก็ไม่ฟังอยู่แล้ว แต่ยังไงก็เถอะรักอย่างเดียวไม่พอล่ะซิ่ ร้องไห้เลยไรท์ ซื้อทิชชู่แจกรีดทุกๆคนด้วยค่ะ สู้ต่อ

    ตอบลบ
  41. คือมันแบบ มันยืดเยื้อเพราะไม่มีใครยอมใครเพราะห่วงศักดิ์ศรีกันอะ ถ้าทั้งสองฝ่ายมองความจริงว่ามีใครบางคนที่คอยเป็นห่วงแล้วก็เจ็บเสมอเวลาพวกเค้าไปเจ็บตัวกลับมา มันควรจะทิ้งอคติไปได้แล้วอะ แก้ปัญหาไม่ถูกกันเลยสักคน อ่านไปร้องไป เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกก ไรท์สู้ๆนะ อยากให้เค้าเข้าใจกันแบบจริงๆสักที ㅠㅡㅠ

    ตอบลบ
  42. ไรท์ ทำไมต้องดราม่าอ่า //แงงTT สงสารทั้งเอยทั้งซันเลยอ่า

    ตอบลบ
  43. อีเหี้ย...อิเหี้ย!.. อิเหี้ย!!!!!! แม่ง ร้องเลยเหี้ย ...คือมันพูดไม่ถูกอะ เป็นความรุ้สึกที่แม่งแบบ..... การที่เรารักใครคนหนึ่งอะ และเขาก้รักเรา แต่เราต้องออกห่างจากเขา ...แม่งเป็นห่าไรที่โครตทรมานอ่ะ...แต่เราก็เข้าใจทั้งดิวเอยและทุกคนนะ เออเว้ย!....สู้ๆละกันไรท์

    ตอบลบ
  44. ไรท์ไม่เอาแบบนี้นะ ไม่เอาอ่ะ ไม่ยอมมมม แต่ชอบฉากที่เคจูบซีมากค่ะ ส่วนตัวชิปคู่นี้ค่ะ

    ตอบลบ
  45. ไรท์จะมาตัดจบแบบนี้ไม่ได้นะ มารับผิดชอบเลย ร้องไห้แบบไม่เคลียมันเจ็บที่หัวใจ

    ตอบลบ
  46. เเงงงมันหน่วงไปหมดเลยอ่าา ไรท์ไม่ม่านานได้มั้ยขอร้องล่ะ อยากให้เค้าเข้าใจกันเร็วๆนะ

    ตอบลบ
  47. ไม่เอาดราม่าแล้ววแงงสงสารดิวสงสารเอยฮืออออ

    ตอบลบ
  48. ดราม่าหนักมาก เราร้องไห้หนักมากเช่นกัน

    ตอบลบ
  49. เลิกทั้งที่ยังรักกันนี่เจ็บสุดๆไปเลย

    ตอบลบ
  50. ตอนนี้อยากได้ตี๋หลงมากค่ะ5555 หลงจะซาดิทน่าดู อ้ากก5555

    ตอบลบ
  51. ทำไมต้องดรามาาสงสารทั้งเอยสงสารทั้งดิว ซันซีเคอีกกกฮือออㅠㅠㅠㅠㅠㅠ อย่าจบเเบบนี้นะไรท์อย่าทิ้งบอม

    ตอบลบ
  52. พวกเขาจะเพื่อนกันได้ใช่ใหม😣😊

    ตอบลบ
  53. ไรท์อ่าาาา หน่วงไปหมดเเล้ววว ร้องไห้ไม่ไหวเเล้ว

    ตอบลบ
  54. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  55. ใจร้าย ใจร้ายมากๆเลย เลิกทั้งๆที่ยังรัก ฮือๆๆๆ

    ตอบลบ
  56. โคดซ้ำรอยเลย ถ้าจะเป็นงี้ก็ไม่ต้องจีบแต่แรกป่ะ ถ้ายอมแพ้ง่ายขนาดนี้ โคดผิดหวัง... (สงสารเอย)

    ตอบลบ
  57. เอาจริงป้ะ เคน่าจะปล้ำซีบนรถเลย
    ปล.เราไสย์ๆ

    ตอบลบ
  58. แง เรื่องนี้ทำเราร้องไห้ เจ็บแทนเอิงเอยเลย😭😭😭😭😭

    ตอบลบ
  59. อยากให้ทำเป็นซีรีย์มากๆค่ะไรท์

    ตอบลบ
  60. อยากให้ทำเป็นซีรีย์มากๆค่ะไรท์

    ตอบลบ
  61. ดีเเล้วที่ตอนนี้จูนไม่พูดไรมาก เพื่อนกันกอดปลอบก็พอเเล้วอย่าซ้ำเพื่อน

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I AM JUMP : Episode 01

Episode 16 - อย่าชักช้าสิครับคุณ

Episode 12 - จำได้รึเปล่า (2/2)