Episode 27 - ก็คนเขาไม่เคย






I AM DEW
Episode 27

ก่อนอ่านตอนนี้ อ่านดิวเด๋อ ในจอยลดาตอนที่ 27 ก่อนนะคะ
 
By K
 
“ยังคิดมากอยู่หรอ?”
ผมเป็นฝ่ายเอ่ยถามเมื่อพบว่าในห้องมีแต่ความเงียบ เราทั้งสองคนนอนอยู่ด้วยกันบนเตียงกว้าง เขานอนหงาย และผมเองก็นอนหงายเช่นกัน
ภายในห้องที่มืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากทางด้านนอกส่องเข้ามารำไร และผมรับรู้ได้แค่ความอุ่นจากมือของเราที่สัมผัสกันไว้เท่านั้น
เป็นเรื่องดีที่พ่อและแม่ของเขาไม่ค้านอะไรเกี่ยวกับการคบกันของพวกเรา ถึงแม้ว่าแวบแรกพวกท่านจะมีสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเนื่องจากเห็นรอยแผลที่ยังไม่จางไปจากหน้าของผมก็ตามที เรื่องนั้นซีเป็นฝ่ายอธิบายเองว่ามีปัญหากันเพียงเล็กน้อย และหลังจากนั้นผมก็โดนติมาอีกนิดหน่อย ด้วยความที่ทั้งพ่อและแม่ของเขาเป็นห่วงนั่นแหละครับ
ตัวผมเองก็ยอมรับฟังและเก็บเรื่องทั้งหมดมาคิด มันเป็นความจริงที่ว่าตอนนี้เราไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว เพียงได้ยินประโยคที่พ่อแม่ของเขาปิดท้ายกับเราว่า ฝากดูแลน้องซีด้วยนะ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นแค่คนตัวเล็กๆคนหนึ่งอีกต่อไป เพราะผมจะต้องโตขึ้นมากกว่าเขา จะได้โอบล้อมร่างกายของอีกฝ่ายเอาไว้และปกป้องให้ได้
ผมว่าผมต้องไม่ทำให้พ่อแม่ของซีผิดหวัง
“หือ?” เขาตอบกลับมาแบบนั้น เรียกให้ผมกระชับมือที่ประสานเอาไว้เข้าหากันแล้วเป็นฝ่ายเขยิบเข้าไปใกล้
“ก็แว่นเงียบไม่พูดอะไรเลยอะ เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”
ก็.. เปล่าอะ
เขาตอบกลับมาแบบอ้ำอึ้ง ผมจ้องหน้าเขาผ่านแสงสว่างเพียงน้อยนิด เราทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความเงียบ ในตอนนี้เขาไม่ได้ใส่แว่นเพราะมันใกล้จะถึงเวลานอนแล้ว แต่เพียงแค่ได้เห็นรางๆแบบนี้ ผมก็สัมผัสได้อยู่ดีว่าอีกฝ่ายน่ารักยังไง
ยังสงสัยอะไรอยู่รึเปล่า
หือ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ไง
“…”
แว่นไม่สบายใจอะไรก็พูดได้หมดเลยนะผมจับหน้าเขาให้หันมามองกัน มือประคองไว้ตรงข้างแก้มเนียนแล้วลูบเบาๆเพราะอยากให้เขาสบายใจได้แบบจริงๆ ถ้าเก็บไว้คนเดียวบางทีเคก็ไม่รู้ว่าแว่นคิดอะไรอยู่
เราแค่สงสัยว่ามันจะง่ายแบบที่เคบอกจริงๆหรอเขาขยับปากพูดอุบอิบ ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วขยับเข้ามาใกล้ผมอีกนิด
ง่ายดิ
ก็ตอนมีเรื่องถ้าเคไม่ไปกับพวกพี่เขา เขาจะไม่หาว่าเคทิ้งหรอ
ไม่รู้สิ
“…”
แต่เคจะแคร์แค่พวกพี่เขาไม่ได้อะ ถ้าตัดสินใจจะมีแฟนแล้ว ก็ต้องแคร์อย่างละครึ่งผมหัวเราะ พอพูดจบแว่นก็เขยิบเข้ามาใกล้อีก ผมเลยฉวยโอกาสด้วยการใช้จังหวะนี้ดึงเขาเข้ามากอดแล้วกดให้หัวอีกฝ่ายจมลงมาในอก
เราไม่อยากให้เคโดนพี่เขาโกรธ หรือไม่พอใจ
พวกพี่เขาเข้าใจได้อยู่แล้ว จริงๆ.. ถ้าจะมีเรื่องกันเคก็ไปด้วยได้
“…”
แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องของผม ผมก็จะไม่ตีกับใครครับ
ปกติเคโมโหง่ายหรอ เราเพิ่งเคยเห็นเขาเงยหน้าขึ้นมามอง ตาเรียวกะพริบปริบๆ โคตรเหมือนลูกหมาที่กำลังอยากอ้อน “ที่ผ่านมาเรานึกว่าเคใจเย็นมาตลอด”
ก็เข้าใจถูกแล้วมั้ง ฮะๆ ปกติเคเป็นคนใจเย็นนะผมเกลี่ยมือไปตามหน้าผากของเขา แต่อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นหวงมากๆ เลยคุมตัวเองไม่ได้
อะไรเล่า..”
ก็มีอยู่คนเดียวอะ ไม่ให้หวงคนนี้ให้ไปหวงคนไหน
เขาเม้มริมฝีปาก เพราะความมืดทำให้ผมไม่สามารถมองเห็นได้ว่าหน้าเขาแดงหรือไม่ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาก็ทำให้เดาได้ว่าคนอย่างแว่นน่าจะเขินจนเลือดลามไปถึงใบหูแล้วล่ะมั้ง
ผมมองหน้าเขาอยู่แบบนั้น พอพูดถึงตรงนี้สีหน้าของเขาก็ดูผ่อนคลายลงจากเดิมเยอะเลยทีเดียว ผมเพิ่งจะเข้าใจได้ว่าตอนที่มีใครสักคนเป็นห่วงเนี่ยมันรู้สึกดียังไง คงไม่ต่างอะไรจากที่ไอ้หมอกบอกสักเท่าไหร่ มันเป็นคำพูดที่อธิบายออกมาไม่ถนัดนัก แต่ถ้าจะให้นิยามออกมาเป็นคำพูดหนึ่ง ก็คงจะรู้สึกว่า.. เรามีค่าขึ้นมาบ้างล่ะมั้งครับ
เขาทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้
ทำให้ผมรู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนคนหนึ่ง
ถึงแม้ว่าความจริงแล้วผมจะเป็นแค่เด็กม.ปลายธรรมดาๆคนนึง แต่พอคบกับเขา ผมก็รู้สึกว่าชีวิตของผมก้าวขึ้นไปอีกขั้น ทั้งในด้านความคิดแล้วก็ด้านความรู้สึก
“เค”
“หืม?” ความคิดของผมขาดห้วงไปเมื่อได้ยินเขาเรียก ผมจ้องหน้าร่างเล็กก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
“คิดอะไรอยู่?” เขาถามเสียงเรียบ ซีทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็เม้มริมฝีปากเอาไว้เหมือนเก่า
“ก็คิดว่าโชคดีที่แว่นเลือก”
“หือ?”
“ลองคิดดูว่าถ้าแว่นไปกับคนอื่น เคน่าจะอยู่ไม่ได้” จนถึงตอนนี้เขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ แว่นอมยิ้มแล้วใช้มือดันมาที่อกของผม ท่าทางน่ารักนั้นเรียกให้ผมดึงเขาเข้ามากอดเอาไว้แน่นๆ ก่อนจะกดจมูกหอมลงไปที่แก้มทั้งสองข้างด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ฮื่อ..”
ตัวของเขาโคตรหอม จากที่กะเอาไว้ว่าจะฟัดเล่นๆแค่สองสามที สุดท้ายแล้วผมก็หยุดไม่ได้ ปลายจมูกยังคงกดอยู่ที่แก้มของเขา สูดดมเอาความหอมราวกับเด็กน้อยเข้ามาจนเต็มปอด พร้อมกับอ้อมแขนที่กอดรัดร่างเล็กเอาไว้จนไม่มีที่ว่าง
แว่นดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอด เขาหัวเราะคิกคักเมื่อผมฟัดจมูกลงไปแถวๆคอ หลังจากนั้นก็หดตัวหนีเมื่อพบว่ามันคงจั๊กจี้ ท่ามกลางความมืดและบ้านที่เงียบสงบมีเพียงเราสองคนที่ยังคงไม่เข้าสู่ห้วงนิทรา ผมจำต้องแนบริมฝีปากเข้าหาเขาเพื่อปกปิดเสียงหัวเราะนั้นเอาไว้ ถ้าไม่อย่างนั้นพ่อและแม่ของเขาอาจจะตื่นขึ้นมาได้
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากำแพงบ้านของเขาหนาเท่าไหร่ แต่ที่รู้แน่ๆคือห้องนอนของคุณพ่อและคุณแม่อยู่ติดกับห้องที่เรานอนอยู่นี่เลย พอรู้แบบนั้นมันก็อดที่จะระแวงไม่ได้ว่าเราจะทำอะไรดังเกินไปรึเปล่า
“อือ..” ผมแนบริมฝีปากเอาไว้ในขณะที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งเสียงครางนั้นดังเข้ามาในหูถึงได้รู้ว่าตัวเองเคลิ้มไปกับจูบที่แสนจะธรรมดาๆนี้ซะงั้น ผมเป็นฝ่ายสอดปลายลิ้นเข้าไปหาเขาโดยที่ไม่ทันได้คิด ความอ่อนนุ่มและชื้นแฉะที่สัมผัสได้ทำเอาหัวใจพองโตขึ้นมาได้ง่ายๆ ครั้งนี้ไม่ใช่จูบแรกของเราทั้งสองคน แต่มันก็ทำให้ผมยังคงตื่นเต้นราวกับไม่เคยทำมันมาก่อน
ร่างเล็กแตะลิ้นมาตวัดตอบกลับอย่างเงอะๆงะๆ ซีตัวแข็งทื่อจนผมสัมผัสได้ว่าเขาโคตรจะเกร็ง มือบางกำเสื้อของผมเอาไว้แน่นก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นทั้งๆที่ผมไม่ได้ทำอะไรรุนแรง
แล้วก็เหมือนว่าผมจะเป็นโรคจิต..
บอกตรงๆว่ายิ่งเห็นเขาไม่ประสีประสาเท่าไหร่ ไฟร้อนๆที่อยู่ข้างในใจมันก็เริ่มลุกโชน
“อื้อ!
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่เป็นฝ่ายพลิกขึ้นไปคร่อมร่างเล็กเอาไว้ ผมบดริมฝีปากเบียดจูบเข้าหาเขาจนอีกฝ่ายจมลงไปกับหมอน มันยังคงเหมือนเดิมที่เขารับจูบผมไว้ไม่ทัน ซีวางมือเอาไว้บนอก ก่อนจะดันออกเป็นพักๆ แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนเป็นขยำเสื้อของผมจนยับเมื่อไม่อาจต้านทานเอาไว้ได้
ผมดูดเม้มริมฝีปากบางนั้นจนบวมเจ่อ เกิดเป็นเสียงดังก้องเข้ามาในหู แล้วมันก็ทำให้เขาครางฮือออกมาอีกหน ซีเผยอปากหอบหายใจอย่างรุนแรงเมื่อผมเปิดโอกาสออกให้ แต่วินาทีถัดไปผมก็รีบทาบทับเข้าหาใหม่แล้วตวัดลิ้นเข้าไปรุกแบบหนักหน่วง จนเขาเผลอกอดผมเอาไว้แน่นๆ
น่าแปลกที่วันนี้ร่างเล็กไม่ยักจะห้าม..
ผมจูบเขาซ้ำๆ จนแรงเสียดสีทำให้สัมผัสได้ว่ากลีบปากบางเริ่มจะอุ่นร้อน ร่างเล็กหลับตาขมวดคิ้วมุ่นเมื่อผมเป็นฝ่ายผละออกมาแล้วกดจมูกซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอต่อ ที่ตรงบริเวณนี้หอมมากเสียจนทำเอาความยับยั้งชั่งใจในอกปลิวหายไปจนหมด
ซียังคงนอนนิ่ง ผมเหลือบมองหน้าเขาเป็นพักๆในขณะที่กดริมฝีปากจูบไปตามใบหูและลำคอ ในใจก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่เขาจะเอ่ยปากห้าม
แต่ไม่..
เขาไม่ร้อง
ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
ร่างเล็กนอนหลับตานิ่งปล่อยให้ผมล่วงเกินอยู่หลายนาที จนกระทั่งมันเลยเถิดไปไกล รู้ตัวอีกทีมือของผมก็วางอยู่บนแผงอกบาง ปลายนิ้วลากไปตามผิวกายเนียนละเอียดก่อนจะหยุดอยู่ที่ตุ่มไตนูนแข็งตรงกลางนั้น
“ฮื่อ..”
เขาร้อง.. ส่วนผมก็ได้แต่บ่นกับตัวเองในใจ
ชิบหายละ
เจลไม่มี
ถุงยางอยู่ในรถ
บอกเลยว่านี่คือความชิบหาย
ในห้องนอนของเขาจะมีเจลหล่อลื่นได้ยังไง แล้วนี่ยิ่งเป็นครั้งแรกด้วย ถ้าไม่ใช้มีหวังแว่นต้องโคตรเจ็บแน่ๆ ผมรับประกันได้เลยว่าวันพรุ่งนี้เขาต้องเป็นไข้และอาจจะลุกไม่ไหว
ไอ้เหี้ยเค
พรุ่งนี้ไปโรงเรียน
มึงหยุด!
“เคว่าเราควรนอนอะ”
ผมกลั้นใจถอนตัวเองออกมาจากความหอมนั้น การหอบหายใจที่รุนแรงและความปวดหน่วงๆบริเวณกลางลำตัวเป็นสิ่งที่ตอกย้ำได้ชัดเจนว่าเมื่อกี๊ผมเกือบจะปล้ำเขาอยู่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าแว่นตอนนอนนิ่งๆจะทำให้มีอารมณ์ได้มากขนาดนี้ ทั้งๆที่ปกติผมชอบคนที่ยั่วๆนะ แต่ดูเหมือนว่าพอเป็นแบบนี้แล้วผมอาจจะต้องทบทวนสเป็คของตัวเองใหม่
“อะ..อะไร?”
“ดึกแล้วไงครับ นอนกัน” ผมตัดสินใจตัดบทลงแบบดื้อๆ ก่อนจะเคลื่อนกายออกมาจากการคร่อมเขาไว้แล้วเปลี่ยนมานั่งอยู่ข้างๆ ในขณะที่แว่นกัดริมฝีปากของตัวเองแล้วลุกขึ้นมาด้วยเช่นกัน
ภายในห้องเต็มไปด้วยความเงียบสงัด ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นระรัวเพราะทำตัวไม่ถูก รวมทั้งความปวดหน่วงๆที่บริเวณตรงนั้น
ผมว่าผมนอนไม่หลับ
ผมต้องไปห้องน้ำอะ
“แว่น”
“...”
“จะนอนเลยปะครับ?” ผมหันไปคุยกับเขา แต่อีกฝ่ายกลับเหลือบตาขึ้นมามองแบบที่ไม่พูดอะไร ซีเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง สายตาที่เขามองมาทำให้ผมหัวเบลอไปชั่วขณะหนึ่งแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อ
คือ..
หรือว่าเมื่อกี๊ผมทำมากไป
แต่ความจริงเราสองคนเคยทำมากกว่านี้แล้วนะ เขาก็ไม่น่าจะโกรธรึเปล่า
“ถ้าแว่นจะนอนเลย เดี๋ยวเคส่งแว่นนอนก่อน”
“แล้วเคจะไปไหน?”
ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่าว่าน้ำเสียงของเขาแข็งกว่าเดิมนิดหน่อย แต่พอเห็นว่าสายตาที่มองมาดูจะเคืองไม่น้อย ก็เลยทำให้ผมต้องยกมือขึ้นมาเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจ
“คือ..ก็” ผมอึกอัก จะให้ตอบว่ายังไงดีวะ ถามจริงดิ? คือเมื่อกี๊เขาน่าจะสัมผัสได้ว่ามัน.. ตื่นแล้ว เขาก็น่าจะรู้ดิว่าผมจะไปทำอะไร
ก็ไปทำเหมือนเดิมนั่นแหละ
เหมือนวันนั้นไง
“ไปห้องน้ำ..ครับ” ผมตอบไปตามความจริง พอเป็นแบบนั้นแว่นก็หน้ามุ่ยกว่าเดิมซะอีก ร่างเล็กดึงขาเข้ามากอดเอาไว้ก่อนจะกดคางลงชิดเข่า ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบเมื่อเขาไม่ยอมพูดอะไรออกมา ส่วนผมก็เริ่มจะทำอะไรไม่ถูก
“คือแว่น..”
“เราไม่น่าปล้ำใช่มะ?”
“ห้ะ?”
“เคถึงไม่ทำอะ?”
“เดี๋ยว”

ผลุบ!

เขาดึงผ้าห่มมาคลุมกายเอาไว้จนถึงปาก พร้อมกับนอนตะแคงหันหลังให้กับผม ร่างเล็กขดตัวจนกลายเป็นก้อนกลมๆ ส่วนผมก็หลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่พอเมื่อเขยิบเข้าไปใกล้แล้วแตะเบาๆเขากลับสะบัดหนีซะงั้น
“คิดไรเนี่ย เคไม่ได้..”
“เออเรารู้ ช่างมันเถอะ เคอยากจะไปทำไรก็ไปเลย”
“เดี๋ยวดิ นี่คืองอนจริงอ่อ?” มันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ถึงแม้จะรู้ว่าเขาโคตรงอนก็เถอะ แต่พูดกันตรงๆ ทำไมท่าทางแบบนี้โคตรจะน่ารักเลยว่ะครับ
“ขำอะไร?”
“อยากให้ทำหรอ?”
“...”
เขาไม่ตอบคำถาม แต่กลับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงปลายจมูก ร่างเล็กฮึดฮัดจนผมเริ่มจะขำไม่ออก จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเคลื่อนกายไปกอดเขาเอาไว้ทั้งผ้าห่มแล้วซุกจมูกลงที่ซอกคอ
“แว่น”
“เราจะนอนแล้ว ง่วง”
“ไม่เอาดิ ยังนอนไม่ได้” ผมอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้จริงๆ ร่างเล็กครางฮือออกมาเมื่อผมสวมกอดเขาเอาไว้แน่นขึ้น ปลายจมูกยังคงกดซุกไว้ที่ตรงซอกคอ ก่อนจะฟัดไปมาเบาๆเพื่อให้เขายอมคลายผ้าห่มออก
“เราง่วง เคจะไปห้องน้ำก็ไปดิ
“ไม่ใช่เคไม่อยากทำ แต่ถ้าทำแล้วพรุ่งนี้แว่นไปโรงเรียนไม่ไหวทำไงอะ?”
“ไม่ต้องพูด”
“เอ้า เคพูดจริงนะ”
“งั้นก็รอเราปิดเทอมก่อนค่อยมานอนด้วยกัน ถ้าเคจะมานอนด้วยแล้วหนีไปเข้าห้องน้ำเรื่อยๆงี้ก็ไม่ต้องมา จะมาทำไมอะ อยู่บ้านไปก็ได้ถ้างั้น”
อ้าว..
เขางอนจริงจังด้วยว่ะ
แต่โอ๊ย
ผมหยุดขำไม่ได้
ทำไมเขาต้องน่ารักแบบนี้อะ
“แฟนครับ ไม่เอา ไม่งอนดิ”
“เราง่วง จะนอนแล้ว” ซียังคงดึงดันไม่เลิก เขาพยายามบิดตัวหนีออกจากกอดของผม ร่างเล็กใช้แรงทั้งหมดที่มีส่งมายังแขนแล้วใช้มันผลักผมออก แน่นอนว่าแรงของเขาไม่อาจจะต้านทานผมเอาไว้ได้หรอก แต่ท่าทางงอนๆ ริมฝีปากเชิดๆนั่นก็ทำให้อดที่จะฟัดไม่ได้เหมือนกัน
“แว่น ไม่งอนเร็ว”
“ปล่อยนะ!
“ใครว่าไม่น่าปล้ำ โหย”
“ก็เคไง! เคบอกเองว่าเราไม่น่าปล้ำ ก็ไม่ต้องมายุ่งดิ” เขาพูดเสียงดังจนผมกลัวว่ามันจะได้ยินไปที่ห้องอื่น แต่ดูเหมือนแว่นจะลืมตัวไปชั่วขณะหนึ่ง ร่างเล็กยังคงดิ้นไปเรื่อยในขณะที่ผมพยายามกดเขาให้นอนหงายแล้วยันตัวขึ้นไปคร่อม
“เคก็พูดไปงั้นอะ จริงๆอยากปล้ำจะตาย”
“ไม่ต้อง!
“แว่น”
“ออกไปเลย จะนอน”
“ไม่ให้นอน จะเอา”
“อื้อ!
ผมแนบปากเข้ากับเขาในทันที ต่อจากนั้นก็มีทั้งแรงดันแรงผลักมากองรวมกันอยู่ที่หน้าอกเต็มไปหมด แว่นทั้งร้องท้วงทั้งดีดดิ้นแต่เขาไม่อาจสู้แรงผมได้
ริมฝีปากเล็กถูกดูดเม้มแบบหนักหน่วงมากกว่าในตอนแรกที่เราจูบกัน ผมฉวยโอกาสในตอนที่เขาอ้าปากเตรียมจะด่าแทรกปลายลิ้นเข้าไปกวาดต้อนด้วยความรวดเร็ว ยิ่งเขาถดหนีผมก็ยิ่งดุนดันเข้าไปได้ลึกยิ่งขึ้น สูบเอาลมหายใจของคนตัวเล็กเข้ามาครองเอาไว้จนแรงขืนเริ่มจะลดผ่อน
จากจูบที่หนักหน่วงในตอนแรกเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเพียงเสี้ยววินาที ผมทำให้เขาเคลิ้มไปกับการกระทำทุกอย่างจนร่างเล็กเผลอแตะปลายลิ้นตวัดตอบกลับมาเป็นพักๆ ในขณะที่ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกดึงออกไปเพื่อเปิดทางให้กายได้แนบกันเหมือนเก่า
“อึก..อือ” ร่างเล็กสวมแขนกอดผมเอาไว้แน่นพร้อมทั้งจูบตอบกลับมาแบบไม่ประสีประสา ลิ้นบางตวัดตอบกลับมาเงอะๆงะๆ และเพื่อเป็นการเช็กว่าอารมณ์เมื่อสักครู่ของเขาหมดไปหรือยัง ผมจึงลากมือลงไปคลำอยู่ที่ตรงกลางลำตัวแล้วออกแรงขยำมันเป็นจังหวะ
“อื้อ..”
เขายังไม่ได้อ่อนตัวลงมากขนาดนั้น
รสจูบที่ร้อนกว่าเดิมปลุกให้มันแข็งสู้มือขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ซีบิดตัวดิ้นท่ามกลางการถูกครอบครอง ร่างเล็กตกอยู่ในอาการเกร็งอีกครั้งเมื่อผมล้วงมือเข้าไปในกางเกงนอนแล้วแตะปลายนิ้วเข้าหาแบบที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้น
“ฮื่อ..เค”
“ชู่ว..” ผมกำรอบเนื้อร้อนเอาไว้แล้วขยับข้อมือเป็นจังหวะเนิบนาบ ที่ปลายนิ้วแตะลงบนรอยแยกพร้อมกับบดคลึงไปมาจนกระทั่งสัมผัสได้ถึงน้ำแฉะๆที่ไหลออกมาซึม
ร่างเล็กนิ่วหน้าก่อนจะกัดริมฝีปาก เขาดูกลัวเวลาที่ผมกระทำอะไรต่อมิอะไรตามประสาของคนที่ไม่เคย แต่ในเมื่อเขาไม่ห้ามและอยากให้มันเกิดขึ้น
ผมก็จะไม่ปฏิเสธว่าผมก็อยากทำมันเหมือนกัน
“พอ..พอแล้วดิ ฮึก”
“อยากให้พอ?”
“มะ ไม่ใช่”
“แว่นจะจับของเคก็ได้นะ ยังไงเราก็เป็นแฟนกันอยู่แล้ว”
ผมแกล้งดึงมือของเขามาวางทาบที่ของตัวเอง ทันใดนั้นร่างเล็กก็ครางท้วงออกมาอีกหน เขาพยายามจะชักมือกลับ แต่ผมเห็นว่าท่าทางนั้นโคตรจะน่าแกล้งถึงได้บังคับให้เขาจับมันเอาไว้แบบนั้น
“เค..”
ฝ่ามืออุ่นๆแนบเข้ากับเนื้อทั้งลำเมื่อผมดึงมันออกมาจากกางเกงนอน แว่นหลับตาปี๋เมื่อผมบอกให้เขารูดขึ้นลงเป็นจังหวะ ร่างเล็กไม่ยอมมองมัน บอกตามตรงว่าผมอยากจะแกล้งเขาให้มากกว่านี้ แต่ก็ห้ามใจไว้ก่อน เก็บไว้รอบหน้าก็แล้วกัน
“จะทำ..ไร เค”
“ทำให้ดูก่อน แล้วรอบหน้าคุณต้องทำให้ผมนะครับ”
เขาเบิกตากว้างเมื่อผมร่นตัวต่ำลงไปแล้วแยกขาทั้งสองข้างออก ร่างเล็กรีบส่งมือมาปิดแต่เขาไม่ทันผมหรอก ข้อมือบางถูกคว้าเอาไว้กลางอากาศพร้อมกับใบหน้าที่ก้มลงต่ำ เพียงแค่นั้นเข่าทั้งสองข้างก็ปิดเข้าหากัน แต่เขาอาจจะลืมไปว่าตัวของผมแทรกกลางอยู่ตรงนี้
ยังไงก็หนีไม่รอดแล้วครับ
“เคอย่า.. ไม่เอา-อ๊ะ”
ร่างเล็กรีบดึงหมอนมาปิดหน้าเมื่อผมส่งส่วนอ่อนไหวของเขาเข้ามาในปาก ด้วยความที่เป็นผู้ชายเหมือนกันทำให้ผมรู้ดีว่าเขาจะรู้สึกยังไง หน้าท้องบางหดเกร็งเมื่อผมทำเพียงเม้มเบาๆอยู่ที่ตรงส่วนปลาย ขาทั้งสองข้างของเขาเกร็งแน่น เสียงครางอื้อดังออกมาให้ได้ยินพอหอมปากหอมคอเนื่องจากมีหมอนใบใหญ่ปิดมันเอาไว้
น่าเสียดาย
ความจริงผมก็อยากเห็น
แต่วันนี้จะไม่บังคับอะไรมากเพราะไม่อยากให้เขากลัวจนเกินไป
ร่างเล็กจิกปลายเท้าลงกับเตียงในตอนที่ผมผงกหัวขึ้นลง เขากำมือเข้ากับหมอนใบใหญ่จนมันขึ้นรอยยับ ในขณะที่ส่วนปลายนั้นขับน้ำหนืดๆออกมาเรื่อยๆ ทำให้ผมรู้ดีว่าเขาเสียวมากแค่ไหนกัน
แต่ผมเนี่ยปวด
“อ๊ะ..ฮึก เค พอแล้ว”
เพียงเขาบอกแค่นั้นผมก็เพิ่มจังหวะในการใช้ปากให้เร็วกว่าเดิม มือบางส่งมาดันที่ตรงข้างแก้มแต่ผมเลือกที่จะฉุดมันไว้อีกหนแล้วตั้งหน้าตั้งตาทำต่อ ความลื่นจากน้ำลายทำให้มันไม่เป็นอุปสรรค ผมดูดเม้มที่ตรงส่วนปลายแบบหนักๆ ใช้ลิ้นดุนอยู่ที่รอยแยกนั้นจนกระทั่งสะโพกบางยกลอยขึ้นจากเตียง
ร่างเล็กบิดดิ้นพร้อมกับพยายามถดหนี ผมล็อกต้นขาของเขาเอาไว้แน่นๆแล้วใช้แก้มตอดที่ตรงส่วนนั้นแบบแรงๆจนกระทั่งเขาทนไม่ไหว
“อ๊ะ-เค.. เค” น้ำร้อนๆพุ่งออกมาจากตรงส่วนปลาย และบัดนี้มันอยู่ข้างในริมฝีปาก ผมเหลือบตาขึ้นมองหน้าเขาก่อนจะกระตุกยิ้มให้ แสงไฟจากด้านนอกทำให้เห็นแวบหนึ่งว่าหน้าเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ มันดูน่ารักและอยากจะมองนานๆ แต่ผมกลับรอช้าไม่ได้
ผมใช้น้ำที่เขาปล่อยออกมาชโลมไปทั่วก้านนิ้วก่อนจะจับให้ขาเรียวแยกออกอีกครั้ง ไม่รู้ว่ามันจะมากพอรึเปล่าแต่ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้วในเวลาแบบนี้
“ถ้าเจ็บบอกนะ เคจะหยุด”
แว่นพยักหน้าลงเนิบนาบก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปาก แอบเห็นเขาขมวดท้องเกร็งเมื่อผมสอดปลายนิ้วเข้าไปยังช่องทางอันคับแคบนั้น ผิดกับผมที่ใจเปลี่ยนเป็นเต้นระรัวเพราะมันโคตรจะฟิต
เชี่ย
เขาไม่เคยจริงด้วย
ชิบหายแล้ว
ชิบหาย
“เจ็บ..”
“ให้หยุดมั้ย?”
“ไม่เอา..”
“ถ้าแค่นี้เจ็บ เคจะใส่ของเคเข้าไปได้ไงอะ เมื่อกี๊แว่นจับยังเต็มมือ”
“ฮื่อ” เขาดึงหมอนมาปิดหน้าด้วยความอายอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมเคลื่อนตัวขึ้นไปดึงมันออกแล้วทาบริมฝีปากเข้าไปแทน
บอกตรงๆว่าภายในใจร้อนมากจนแทบระเบิด ความปวดหนึบที่ตรงกลางหว่างขาเป็นตัวเร้าให้ผมอยากรวบรัดขั้นตอนนี้ให้เสร็จสิ้นแต่ก็ทำไม่ได้ ยิ่งในตอนที่ช่องทางร้อนกระตุกตอดอย่างแรงที่ตรงก้านนิ้วมันก็ทำให้เสียวแปลบขึ้นมาจนถึงหน้าท้อง
ผมทำให้เขาเคลิ้มอีกครั้ง ทั้งๆที่ข้างในหัวพยายามบอกให้ตัวเองใจเย็น ช่องทางนิ่มๆขยายตัวจนขยับได้ง่ายขึ้นพอถึงเวลาที่พอเหมาะพอควร แต่มันยังไม่น่าจะเพียงพอที่จะกระทำ
ไอ้เหี้ย
ทำไมจู่ๆผมก็เครียด
คือถ้าถามว่าอยากทำมั้ย ก็อยาก
แต่ผมไม่อยากให้เขาเจ็บเลย ให้ตายเถอะ
“เคจะทำยัง?”
เขาถามเสียงแผ่วเมื่อเห็นว่าผมนิ่งไป ร่างเล็กวางมือลงบนแขนก่อนจะจิกเล็บลงมาเมื่อผมขยับนิ้วไปโดนจุดที่ตรงด้านใน
“แว่นไปโรงเรียนไม่ไหวแน่”
“เรารู้แล้วว่าครั้งแรกมันจะเจ็บ ถ้าเคอยากทำเคก็ทำดิ”
“ห้ะ?”
แล้วทำไมเขาต้องมีอะไรให้ผมตกใจทุกครั้งด้วยวะ
“อะไรเล่า..”
“อย่าไปพูดงี้กับใครนะรู้ปะ?” ผมถอนนิ้วออกมาแล้วจับขาของเขาแยกออก แว่นเบือนหน้าหนีอีกครั้งเมื่อแสงไฟจากด้านนอกมันสะท้อนเข้ากับแกนร้อนแบบพอดิบพอดี เมื่อมองจากตรงนี้ผมถึงได้รู้ว่ามันโคตรบวม เออคือผมโคตรจะมีอารมณ์ ผมโคตรอยากทำ แต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวเขาเจ็บเนี่ย
“จะให้พูดกับใคร พูดกับเคคนเดียวนี่แหละ”
“รักตายเลยครับ มีเมียน่ารัก”
“เมียอะไร!
“เสียงดังทำไม ก็เนี่ยจะทำให้เป็นเมียแล้วไง”
“อ..โอ๊ย”
ผมกดส่วนปลายเข้าไปด้านในแบบช้าๆหลังจากที่พูดจบ ทันทีที่ได้ยินเสียงเขาร้องใจมันก็ยวบตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ช่องทางของเขาบีบรัดอย่างแรงจนผมเองก็รู้สึกเจ็บ ส่วนหัวเสียบคาอยู่ตรงนั้นแล้วก็ไม่รู้ว่าควรถอนออกไปหรือไม่ แต่ซีกลับดึงแขนของผมเอาไว้แล้วพูดเบาๆออกมาว่า
“เรา..ไหวนะ”
“หรอ?”
“ฮึก..โอ๊ย”
เชี่ยละ
ผมควรหยุดมั้ยเนี่ย
“เค เรา..อื้อ”
ผมกลั้นใจดันตัวเองเข้าไปต่อ ในขณะที่เขาน้ำตาคลอเบ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่องทางร้อนมันตอดตุบๆจนไม่อาจถอยหลังได้อีก ผมลูบที่ตรงข้างแก้มของร่างเล็กเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงไปกอดเขาเอาไว้แล้วกดแช่ตัวเองเอาไว้แบบนั้น
“อยากให้หยุดมั้ยครับ?”
“ม..ไม่”
“แน่ใจนะ?”
“เคทำเลย อึก.. รอบต่อไปมันจะเจ็บมั้ยอะ?”
“เท่าที่เคยทำมาก็เสียวกันหมดนะ” ผมหัวเราะก่อนจะจูบหน้าผากเขาไปทีนึง ความรู้สึกทุกอย่างตีกันอยู่ข้างในอก จนสุดท้ายผมก็ตัดสินใจขยับเอวเบาๆเพื่อลองเชิงว่าเขาจะบ่นอะไรรึเปล่า
ร่างเล็กเม้มริมฝีปากเข้าหากันในขณะที่ผมกดสะโพกเข้าออก แรงเสียดสีและความคับแน่นที่เกิดขึ้นทำให้มันเป็นไปได้ยาก หากแต่ความลื่นจากน้ำที่ซึมออกมาตรงส่วนปลายเรื่อยๆก็ทำให้ความลำบากลดลงเล็กน้อย
ผมกดจมูกอยู่ที่ข้างแก้มของเขาก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความเสียวกระสัน แขนเรียวสวมกอดผมเอาไว้แน่น เล็บคมๆจิกลงมาที่ตรงแผ่นหลังในทุกๆครั้งที่ผมเขยื้อนกายไปมา แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บ
ความเสียวทำให้สติที่คุมได้ในตอนแรกมันเตลิดไปไกล ผมสูดปากด้วยความพอใจเมื่อจังหวะเนิบนาบในตอนแรกเพิ่มความเร็วขึ้นตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
“อื้อ..อะ-อื้อ”
“เจ็บอยู่มั้ย?”
“แสบอะ..”
“ไหวป่าว?”
“แต่มัน อ๊ะ..ก็เสียวอยู่..ฮึก”
ให้ตาย
ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ยินเขาบอกว่าเสียว
ให้ตาย
ให้ตาย
เสร็จจากรอบนี้ผมคงต้องมองเขาใหม่
ร่างเล็กหลับตาลงแน่นเมื่อผมยืดกายขึ้นมาแล้วใช้แขนยันเตียงเอาไว้ ผมจ้องหน้าเขาในขณะที่สะโพกเขยื้อนเป็นจังหวะรัวเร็ว ความต้องการแตกซ่านเมื่อเห็นสีหน้าอีกฝ่ายตอนโดนกระทำ
ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ทำให้ผมแทบบ้ามากขนาดนี้
ผมเกลี่ยนิ้วไปตามขอบหน้าผากเมื่อเห็นว่าเหงื่อเม็ดพรายผุดออกมาเรื่อยๆเนื่องจากจังหวะรักนั้นเร็วกว่าเดิม เตียงขนาดใหญ่ที่ใช้รองรับร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไปตามแรงกระแทกที่ผมส่งตัวเองเข้าไป
ผมไม่ควรจะได้ใจขนาดนี้
แต่ในเมื่อเขาไม่ยอมร้องห้าม สิ่งที่อัดอั้นเอาไว้ทั้งหมดมันก็พร้อมที่จะปริแตกออกมา
“เค..ชะ-ช้าๆ อ๊ะ”
“ทนนิดนึง อ่า..ช้าไม่ได้แล้ว ซี๊ด”
บอกตรงๆว่าเนี่ย ทำเบาที่สุดเท่าที่เคยทำมา
ความเสียวที่แล่นขึ้นมาตรงหน้าท้องบวกกับแรงตอดรัดในช่องทางร้อนทำให้ผมหยุดตัวเองไม่ได้ แว่นเขาส่งมือมาดันเอาไว้เพื่อให้ลดจังหวะลงแต่กลับไม่อาจต้านทาน เสียงเนื้อกระทบที่ตรงต้นขาดังเป็นจังหวะถี่ๆ ผมเงยหน้าขึ้นพร้อมกระแทกตัวเองเข้าไปแบบเน้นๆจนเขาหวีดครางออกมาเสียงสั่น
ดูจากท่าทางแล้วเขาไม่น่าจะเจ็บ
ร่างเล็กส่งมือมากำท่อนเอ็นของตัวเองเอาไว้แล้วเป็นฝ่ายรูดเองอย่างรู้งาน ผมก้มลงมองการกระทำนั้นแบบอึ้งๆแต่กลับไม่ได้เอ่ยปากถาม เขามือสั่นไปหมด แถมกายยังเขยื้อนไปตามแรงขยับที่ไม่ได้ลดลง
ความเสียวที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ไม่มีใครพูดอะไรกันต่อ เสียงครางของเขาโคตรจะเร้า ก่อนที่ช่องทางร้อนจะบีบรัดอย่างแรงในตอนที่ร่างเล็กปลดปล่อยออกมาเลอะตรงหน้าท้อง
“อ..อ๊ะ”
“เชี่ย” ผมเผลอสบถเมื่อมันดึงออกมาไม่ทัน ทั้งๆที่ความจริงแล้วผมเสร็จช้ากว่านี้เยอะ แต่อาจจะเป็นเพราะรอบนี้เสียเวลาไปกับการเล้าโลมในตอนแรกนานไปหน่อยมันถึงได้ทะลักเข้าสู่ช่องทางร้อนไปจนหมด
แรงตอดทำให้ผมสูดปากด้วยความกระสัน มันเสียวมากจนขนลุกทั้งตัว ยิ่งในตอนที่ดึงออกมาแล้วเห็นว่าน้ำทั้งหมดไหลย้อนออกมาจากช่องทางร้อนหัวใจก็ยิ่งเต้นรัว
จะว่าไป ผมก็ไม่เคยมีอะไรกับใครแล้วตื่นเต้นขนาดนี้ ...

“เจ็บมั้ยครับ?” ผมเม้มริมฝีปากถามในตอนที่ได้สติ แอบกลืนน้ำลายลงคอในตอนที่เห็นว่าคนตัวเล็กนอนมองมาทางนี้เช่นกัน
ผมไล่สายตาไปตามเรียวขาเล็กๆนั้นจนกระทั่งถึงหน้าท้องเนียน หยดน้ำสีขาวขุ่นยังคงนอนนิ่งอยู่ที่ตรงหน้าท้อง บวกกับสีหน้าที่แสนจะอิดโรยนั่นก็ทำให้พายุแห่งอารมณ์พาลจะหวนกลับเข้ามาอีกรอบ
อย่า
ไอ้เหี้ยเค
หยุดคิดต่อ
ไม่ใช่เวลาจะมาหื่น
“ตอนนี้ไม่เจ็บแล้ว” เขาเม้มริมฝีปาก ก่อนจะหุบขาเข้าหากันแล้วยันแขนขึ้นมาตั้งศอกมองผม
“แต่พรุ่งนี้อะเจ็บแน่ ต้องอุ้มไปโรงเรียนปะเนี่ย?”
“อะไรเล่า.. แล้วมันเลอะนี่ต้องทำไง?” ผมก้มลงไปมองตามที่เขาถาม ก่อนจะพบว่าร่างเล็กหมายถึงน้ำของเขาที่มันยังคงอยู่บนตัวนั่นแหละ
“เช็ดครับ” พูดจบผมก็เอี้ยวตัวไปหยิบทิชชู่มาทำความสะอาดให้
“เมื่อกี๊ เค..” ก่อนที่เขาจะดึงผมไปกอดเอาไว้แล้วซุกใบหน้าลงมาตรงอก “กินมันทำไม..”
“หืม?”
“ก็เค..ไม่ยอมเอาปากออกไป” เขาถามเสียงอู้อี้ๆด้วยความอาย แต่เพราะมันไม่ได้ฟังยากขนาดนั้นผมถึงได้เข้าใจว่าเขาต้องการที่จะสื่ออะไร
“ทำไมครับ?”
“มันรสชาติยังไง”
“หือ?” ผมวางมือลงบนหัวของเขาแล้วก้มลงมองแบบขำๆ “อยากรู้จริงอ่อ?”
“อะไรเล่า ก็เราไม่รู้หนิ ไม่ให้ถามเคแล้วจะให้ไปถามใคร?” เขาเชิดริมฝีปากขึ้นแบบเคืองๆอีกครั้ง จนถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าได้แฟนขี้งอนมาหนึ่งคน แถมยังไม่ได้ใสอย่างที่คิดซะด้วย
แบบนี้ถือว่าเป็นโชคดีรึเปล่านะ
“ไว้จะให้ลอง”
“หือ..” แต่แล้วเขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ร่างเล็กเม้มริมฝีปากก่อนจะส่ายหน้าพรืดแบบกลัวๆ “ไม่เอา”
“ทำไมอะ”
“...”
“อ่อ ไม่กล้ามอง?”
“เค!” เขาเสียงดังอีกครั้งเมื่อผมแกล้งดึงมือเล็กนั้นมาจับ ซีหน้าแดงไปจนถึงหูเมื่อผมรั้งแขนเอาไว้ไม่ยอมให้เขาปล่อย ฝ่ามืออุ่นๆกำรอบท่อนเนื้อที่เริ่มจะอ่อนตัวลง แต่เพราะยื้อยุดกันอยู่นั่นแหละ
..เขาจะชักมือกลับ แต่ผมไม่ยอมให้ทำแบบนั้น
แรงเสียดสีบวกกับความร้อนของฝ่ามือนิ่มๆนั่นก็ทำให้มันแข็งตึงขึ้นมาอีกรอบอย่างห้ามไม่ได้ อาจเพราะปกติผมเป็นพวกตื่นง่ายด้วยมันเลยยิ่งไปกันใหญ่ ร่างเล็กเงยขึ้นมามองหน้าแบบหวาดๆ ในขณะที่ผมส่งลิ้นออกมาเลียริมฝีปากแล้วมองด้วยความชั่งใจ
“รู้ปะว่าเคไม่เคยให้มันจบแค่รอบเดียว”
“ห้ะ”
“มันไม่พอ”
“เค!!” ผมกดให้เขานอนลงไปอีกหน ก่อนจะแตะริมฝีปากลงบนหน้าผากมนแล้วค่อยๆไล่ลงมายังปลายจมูก
แล้วเขาจะรู้ว่าไอ้ที่ผมพูดๆไปว่า เขาไม่น่าปล้ำ เนี่ยมันไม่เป็นความจริง
“รอบนี้ไม่น่าจะเจ็บแล้วเพราะข้างในมันลื่นอยู่”
“ด..เดี๋ยว- เดี๋ยวก่อน”
“ไหนๆก็จะต้องเป็นไข้อยู่แล้ว ขออีกรอบนะครับคนเก่ง”
“อื้อ! เค!

talk : เอ้า ไม่กลัวเสียงดังละเรอะ 55555555555555555
tag #ดิวเด๋อ 







ความคิดเห็น

  1. น้องไม่ไหวค่ะ ตายอย่างสงบศพสีขาวขุ่น//เดี๋ยว5555555

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณที่ทำให้วันนี้ตายตาหลับนะคะ ลาก่อยยยย ฮืออออ ไอ้เคโว๊ยย T_T

    ตอบลบ
  3. ตายตาหลับเเล้วค่ะ บอกมาคืนนี้อยากได้กี่ครั้ง55555555

    ตอบลบ
  4. โอ้ยย กรี๊ดดดด ข้าตายยยบย55555

    ตอบลบ
  5. กราบบบบบบไรท์ น้องไม่ไหวแล้ววววว ตายอย่างสงบ


    ตอบลบ
  6. เออ ไม่กลัวเสียงดังเเล้วเรอะ?5555555555555

    ตอบลบ
  7. ลืมไปเลยว่าห้องข้างๆ เป็นห้องพ่อกับแม่55555 เค ใจเย็นเด้อลูก

    ตอบลบ
  8. ฝันดีแน่นอน บอกเลย

    ตอบลบ
  9. นว้องงง ชุ้นเขิน

    ตอบลบ
  10. ซีไม่ใสน้ะบอกเลย สากยหวไดายหหวาดกสไยๆย

    ตอบลบ
  11. รายงานสถานการณ์ค่ะ ตอนนี้มีคนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้น กับความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องซี ทำให้ศพ “ตายอย่างสงบศพสีชมพู” จบการรายงานค่ะ

    ตอบลบ
  12. โอ้ยยย ใจกูววว~
    #บรรลุแล้วจ้าาาาเขาได้กันแล้ววว

    ตอบลบ
  13. ชอบ 5555555 น้องแว่นน่ารังแก ฮิ ๆ
    ตอนแรกน้อยใจตอนนี้เป็นไงละ เคไม่อยากหยุดเลยอะ เผ็ชมาก แซ่บ อยากอ่านต่อ
    ไรท์แต่งสนุกงะ ชอบบบบ เป็นกำลังใจให้เด้อ

    ตอบลบ
  14. ตายอย่างสงบเลยค่ะ

    ตอบลบ
  15. อมก!!!ฉันฟินนนนนนน

    ตอบลบ
  16. OMG ทั้งฟินทั้งเขิน😣😣😣
    คู่นี้น่ารักมากจริงๆอะ

    ตอบลบ
  17. อย่าเสียงดังล่ะ55555
    ฟินเห้ๆ งื้ออออ

    ตอบลบ
  18. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  19. ฮื่ออออ ฟินน คือตายๆๆๆๆ 😳 งุ้ยยย รักไรท์ เป็นกำลังใจให้น้า ❤

    ตอบลบ
  20. ซีลู๊กกกก น่าหยิกมากก 555555 เขาได้กันแล้วอ่ะะะหวีดดดดดดดด

    ตอบลบ
  21. ตอนแรกคิดว่าจะตายสงบศพสีชมพูเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้คงจะต้องตายสงบศพสีขาวขุ่นซะแล้วม้างง

    ตอบลบ
  22. ฟินมากหือออ หลินโฮ😭

    ตอบลบ
  23. ตอนที่เคบอกว่า "เคว่าเราควรนอน" อินี่แบบ เค๊!!!! จะปล่อยค้างแบบนี้ไม่ได้
    แต่พอต่อเท่านั้นแหละ อือหือ ซี
    ตอนแรกนึกว่าจะเริ่มครั้งแรกด้วยการช่วยกันออรัลเซ็กซ์ แต่ว่าไรต์ไม่อ่อนโยนกันเรา จัดคัทแรกของน้องซีซะเต็มที่เลย เราเข้าใจซี ถึงจะไม่เคย ถึงจะเขิน แต่เธอเป็นติ่ง เธอต้องเสพฟิค เธอต้องเคยผ่านสถานการณ์เหมือนเราตอนที่อ่านตอนนี้ใช่รึไม่ เนี่ยคุณไรต์รู้เปล่าว่าเราต้องพยายามในการพิมพ์เมนต์แค่ไหน มือสั่นไปหมดล้าว
    ขอบคุณค่ะ

    ตอบลบ
  24. ถ้าหนู๋ไม่งอนเค้าเค้าก็ไม่1-2รอบหรอกลู๊กกกกกกกกก

    ตอบลบ
  25. โอ้วว ช็อตนี้กูตายยยย
    ใจบางม้ากกกกกกก

    ตอบลบ
  26. เคคคคค ไหนบอกห้องนอนพ่อกะแม่อยู่ติดกันไง 5555

    ตอบลบ
  27. นางซีมันร้ายนะคะหัวหน้า-////-#เราแค่หนุ่มวายคนหนึ่ง

    ตอบลบ
  28. โอ้ยนฟินนนน ไม่ไว้แล้วววอ้ากกกก😶

    ตอบลบ
  29. หมดกันคราบสุภาพบุรุษ อะไรจะหื่นขนาดนั้นอ่ะเค

    ตอบลบ
  30. ตายแล้วววไม่เหลทอแล้วชีวิตฮื่อ///ประเด็นคือคิดว่าเป้นเรื่องจริงไปแล้วว ไรท์ใจร้าย 😂😂😂😂

    ตอบลบ
  31. อยากจะกรีดร้องงงงง ฮือออออ><

    ตอบลบ
  32. อ่านๆมาทั้งหมดจินตนาการเป็นเคกับจูนอะ5555555

    ตอบลบ
  33. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  34. ฮือออ กรี้ดบ้านแทบแตกก ฟินจนเพลินนนน

    ตอบลบ
  35. นี่ลุ้นมากเลยกลัวแมาจะมาเคาะประตู งุ้งิ้

    ตอบลบ
  36. อะบุกบะลักๆๆครั่กๆ ฟินเว้ยยย

    ตอบลบ
  37. กรี๊ดไปหลายรอบเลยยย เอาหน้ามุดผ้า ทุบที่นอน โอ้ยยยยย ฟิน+เขินนน

    ตอบลบ
  38. งื้อออออออโคดฟินเลย

    ตอบลบ
  39. เห็นภาพเยยิอ่า ////

    ตอบลบ
  40. ไม่อ่อนโยน ฮือออออออ;-;

    ตอบลบ
  41. ห้องข้างๆอ่ะ พ่อกับแม่นะ ทำไม่เกรงเล้ยยย ขอบคุณไรท์ที่ทำให้ตายตาหลับกับเรื่องนี้55 น้องซีหนูไม่ใส่จริง555

    ตอบลบ
  42. ไรท์ เคอย่าทไน้องเเรง

    ตอบลบ
  43. ไรท์คือเราชอบคู่นี้มากๆอ้ะบอกเลย NCอะไรโคตรจะน่ารักโอ้ยยเลือดหมดตัวไปแล้วววเคมันร้ายยยซีก็ร้ายยยย555

    ตอบลบ
  44. ยกมือไหว้พระตลอดเลยยยยยยเขินนนนนนน555555

    ตอบลบ
  45. ม่ายไหววใครไหว้เชิญก่อน555+

    ตอบลบ
  46. ไม่ไหววววตายค่ัตายยย

    ตอบลบ
  47. โหหหหหห ไม่ไหวป้้ะะะะ พ่อแม่จะตื่นมั้ยเนี่ยย

    ตอบลบ
  48. ตั้งแต่อ่านCUTของทุกเรื่องมา นี้คือครั้งแรกที่เจ้อยากเป็นซี เจ้รักเค นะ กิ๊ดดดดดด นี้ฉันเป็นอัลไร😳

    ตอบลบ
  49. พ่อกับแม่ตื่นแล้วจ้า

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I AM JUMP : Episode 01

Episode 16 - อย่าชักช้าสิครับคุณ

Episode 12 - จำได้รึเปล่า (2/2)