Episode 14 - อะไรคือความจริง
I AM DEW
Episode : 14
By Dew
ปล. เหตุการณ์ในตอนนี้คาบเกี่ยวกับในจอยลดาตอนที่ 14 นะคะ เป็นช่วงตอนเช้าในขณะที่ท่านดิวกำลังไปโรงเรียน
เป็นเพราะเมื่อคืนรู้สึกแปลกๆ ก็เลยทำให้ผมนอนไม่ค่อยจะหลับสักเท่าไหร่
ภายในหัวยังคงสงสัยว่าตกลงแล้วเอยเขาเป็นอะไรกันแน่ เพราะถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งคบกันได้ไม่นาน
แต่เวลาที่ใช้ร่วมกัน เวลาที่อยู่ด้วยกัน มันก็มากพอที่จะทำให้ผมรู้และสังเกตได้ว่าตอนนี้เอยแปลกๆไปยังไง
แต่ผมกลับไม่กล้าถามเซ้าซี้เนื่องจากกลัวว่าเรื่องมันจะบานปลายเข้าไปใหญ่
บอกตรงๆเลยว่าผมยังไม่เคยเจอเอยในเวอร์ชั่นแบบนี้
ก็เลยรับมือไม่ค่อยจะถูก
ผมนอนหลับๆตื่นๆจนกระทั่งท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีอ่อน
เมื่อคิดได้ว่าไม่สามารถนอนต่อได้อีกผมก็ตัดสินใจพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด
ในวันนี้ผมใช้เวลาตอนเช้ามากกว่าปกติเพราะไม่ต้องรีบร้อนอะไรนัก
ผมรออยู่สักพัก จนได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังตอนหกโมงตรง
ผมถึงได้ลองทักแชทเอยไปด้วยประโยคธรรมดาๆที่ทำอยู่ทุกๆวัน
‘เอยครับ’
‘ผมตื่นแล้วนะครับ’
รออยู่ประมาณสิบนาทีก็ไม่มีสารตอบกลับใดๆจากคนทางโน้น
พูดกันตรงๆว่ามันทำให้ผมหงุดหงิดมากกว่าเดิมเสียอีก บอกอาการนี้ไม่ถูกเหมือนกัน รู้แค่ว่าข้างในอกมันร้อนแปลกๆ
แล้วก็ไม่สบายใจมากๆมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วด้วย
เกิดอะไรขึ้นกับเอยวะ..
ผมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเนื่องจากไม่อยากฟุ้งซ่าน
สองขาเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องแต่งตัวจนเวลาผ่านไปได้ห้านาทีกว่าๆผมก็ต้องหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูแชทอีกครั้ง
ให้ตายเถอะ เวลาห้านาทียาวนานราวกับมันผ่านไปประมาณห้าชั่วโมง
ผมรู้สึกร้อนในอกไม่ยอมหาย ก็เลยเลือกที่จะทักเอยไปอีกหน
ปกติเอยไม่ใช่คนตื่นยาก ผมรู้ดี และในตอนนี้ข้างในหัวผมก็คิดโน่นนี่ไปเรื่อย
เรื่องราวมันผูกไปไกลว่าเอยอาจจะตื่นแล้วไม่ยอมตอบผมก็เป็นได้
คำถามคือ.. เอยจะทำแบบนั้นทำไมกัน?
ครับ ผมเองก็ตอบไม่ได้
ผมรู้แค่ว่าตอนนี้ผมไม่ชอบบรรยากาศที่เป็นอยู่เอาเสียเลย
มันค่อนข้างจะแย่ และผมเองก็พร้อมที่จะทำทุกทางให้ความสัมพันธ์ของเรากลับมาดีเหมือนเดิม
ขอเพียงแค่เอยบอกผมมาตรงๆ
ผมไม่เคยแคร์ใครมากขนาดนี้เลยนะ
‘เอยครับ ยังไม่ตื่นหรอครับ’
‘มันสายแล้วนะเจ้าแมว’
‘ตื่นมาเถอะครับ ผมคิดถึงนะ’
เพราะว่ายังคิดมากอยู่ก็เลยนึกคำหวานไม่ค่อยจะออก
ผมหยอดเอยไปสามประโยคแค่นั้น แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าคนทางโน้นจะกดเข้ามาอ่านเลยด้วยซ้ำ
แล้วนั่นก็ทำให้ระดับความหงุดหงิดในใจเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
ครับ
ผมเป็นคนเอาแต่ใจ ผมยอมรับเลย อาจจะด้วยการเลี้ยงดูอะไรก็แล้วแต่
แต่ผมก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ เรียกได้ว่าถ้าท่านดิวขออะไรก็ต้องได้สมใจ ที่ผ่านมามันก็เป็นแบบนี้อยู่ตลอด
หมายถึงก่อนหน้าที่จะย้ายมาโรงเรียนใหม่ ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทจริงๆ หลายคนอาจจะไม่เคยเห็นผมในด้านนี้ก็ได้
พูดให้ถูกก็คือ.. ผมคิดว่าผมน่ะเปลี่ยนไปตั้งแต่เจอกับเอิงเอย
เอยเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผมดีได้ในทุกวันนี้
ผมใจเย็นขึ้นเมื่ออยู่กับเอย
ผมพูดเพราะขึ้นเมื่ออยู่กับเอย
ผมไม่สนใจใครเมื่ออยู่กับเอย
ผมไม่โมโหเมื่ออยู่กับเอย
เอย
เอย
เอย
มีแต่เอยทั้งนั้น
แต่ตอนนี้เอยไม่อยู่ เอยไม่ยอมตอบแชทของผม
เมื่อคืนก็คุยกันไม่เคลียร์เท่าไหร่ นั่นทำให้ความเอาแต่ใจกลับมากลืนกินอีกครั้ง จนกลายเป็นความหงุดหงิดก้อนใหญ่ที่จุกอยู่ในหัวของผมตอนนี้
คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน ผมเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องแต่งตัวนานจนเผลอสบถคำหยาบ
แล้วสุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายตัดสินใจกดโทรศัพท์ไปหาเขา
ในใจภาวนาแค่ให้เอยลืมเวลาตื่นก็พอแล้วล่ะครับ..
ตู๊ดดดดด
เสียงรอสายดังสะท้อนอยู่ในหู มันดังวนไปวนมา
กระตุ้นให้ความเครียดของผมมากขึ้นเนื่องจากเอยไม่ยอมรับเสียที
ผมถึงขั้นยกมือขึ้นมาลูบหน้าในระหว่างที่รอ
สองขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาทางด้านหลัง ยังคงพยายามใจเย็นอยู่แม้ว่าเท้าจะตบพื้นตลอดเวลาก็เถอะ
แม่ง
เอยเป็นอะไรวะ
ถ้าเขาไม่รับสายแล้วก็ไม่ยอมพูดให้เคลียร์ผมจะขับรถไปหาที่คอนโดภายใน 5 นาทีนี้จริงๆด้วยเอาสิ
(อื้อ)
แต่แล้วความคิดข้างต้นก็ถูกตัดไปเมื่อในที่สุดก็ได้ยินเสียงเอยรับโทรศัพท์
ผมถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ความเป็นห่วงแทรกเข้ามาแทนที่ในตอนที่พบว่าเสียงของเขายังคงงัวเงีย
“เอยยังไม่ตื่นเหรอ ไม่สบายเหรอครับ”
(อื้อ เอยปวดหัว)
“เอย ผมไปหามั้ย ทำไมเสียงฟังดูไม่ดีเลย”
(ไม่ต้องอะ)
ในใจกระตุกไปเมื่อพบว่าเอยปฏิเสธมาทันที
เนี่ย ผมบอกแล้วไงว่าเอยเขาแปลกๆ มันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆเพราะเมื่อก่อนเขาอ้อนผมจะตายไป
ปกติเอยจะเป็นฝ่ายเรียกผมไปหาด้วยซ้ำ แล้วดูวันนี้..
(เอยว่าจะไปโรงเรียนตอนบ่ายนะ)
“ผมเข้าบ่ายด้วยได้มั้ยครับ
เดี๋ยวไปหาเอยก่อน”
(ไม่ต้อง ดิวไปโรงเรียนเถอะ)
ผมขมวดคิ้วเข้าหากัน โคตรไม่ชอบเลยเวลาโดนปฏิเสธแบบนี้
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมอยากจะถามออกไปตรงๆนะ แต่อีกใจก็คิดว่าบางทีเอยเขาอาจจะไม่สบายจริงๆก็ได้ล่ะมั้ง
“เอยไม่อยากให้ผมไปหาหรอครับ”
ผมถามซ้ำอีกหนเพื่อให้เขาแน่ใจ
พยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติมากที่สุดเพราะว่าอยากเอาใจเขานี่แหละ
(อื้อ ถ้าเอยไม่ไป แล้วดิวก็ไม่ไป
เดี๋ยวพวกหมอกสงสัย)
ไอ้เหี้ยหมอกอีกแล้วใช่มั้ย
ผมล่ะเบื่อชื่อของไอ้เหี้ยนี่จัง ปัญหาทำไมถึงได้เยอะขนาดนี้วะ
ถ้าเป็นอย่างที่เอยว่าจริงๆ เหตุผลนั้นก็ทำให้ผมอารมณ์เสียมากกว่าเดิม เพราะมันคือต้นเหตุที่ทำให้ผมไปดูแลเอยไม่ได้
ทั้งๆที่ตอนนี้เขาไม่โอเคอยู่
(ถึงโรงเรียนแล้วบอกนะดิว
เอยจะไปนอนต่อแล้ว)
“เอยครับ”
(หืม?)
“เอยไม่เป็นไรมากใช่มั้ย?”
ชั่วขณะหนึ่งที่เสียงจากปลายสายเงียบไป
มีแต่ลมหายใจที่ดังมาให้ได้ยิน ราวกับว่าเอยกำลังคิดอะไรบางอย่างแต่เขาก็เลือกที่จะไม่บอกผมอยู่ดี
(อื้อ ไม่เป็นไร)
“ครับ”
(ไปโรงเรียนดีๆ)
“ครับเอย”
(เดี๋ยวตอนบ่ายถ้าเอยไป
จะทักไปหานะ)
“ครับ”
เพราะว่าอารมณ์เสียนี่แหละทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก
ผมเป็นฝ่ายตอบเอยสั้นๆ ก่อนจะกดวางแล้วเก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกง
...สาบานได้ว่าตอนนี้ยังหัวร้อนไม่หาย
อะไรที่ติดอยู่ตอนนี้ทำให้ผมหัวร้อนมากซะจนไม่มีอารมณ์จะร่วมโต๊ะอาหารกับพ่อและแม่
“น้องดิว จะรีบไปไหนคะ”
ผมทำเพียงโค้งหัวเมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นแม่เอ่ยเรียกในตอนที่เดินผ่าน
ก่อนที่ BMW Z4 คู่ใจจะทะยานออกจากบ้านด้วยความรวดเร็วเพราะไม่อยากคุยกับใคร
พูดง่ายๆว่าผมพาล เออ ผมยอมรับ แต่ตอนนี้แรงอารมณ์มันเดือดมากๆ
จนไม่ต่างอะไรกับน้ำที่อยู่ในหม้อต้มเลยสักนิด
ใช้เวลาไม่นานผมก็ขับรถมาจนถึงโรงเรียน
เป็นตามปกติทุกวัน ที่ผมจะนำรถไปฝากเอาไว้กับร้านอาหารใกล้ๆ เพราะถ้าตอนเย็นวันไหนได้กลับกับเอย
ผมก็จะสั่งให้ไอ้ซันมันเป็นคนมารับรถของผมกลับไป
ชีวิตแห่งการเป็นดิวเด๋อมันก็ยากลำบากแบบนี้แหละครับ
เอาจริงๆ ลานจอดรถของโรงเรียนก็มี แต่ผมขับรถมาจอดข้างในไม่ได้เพราะรถที่ขับมันไม่ได้เข้ากับลุคที่เป็นอยู่เลยสักนิด
ถามว่าเบื่อมันมั้ย ก็ตอบได้เลยว่ามาก
แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ผมยังคงทนอยู่กับมันนั่นก็คือ ‘เอย’ นี่แหละ
เพราะเอยชอบผมที่เป็นแบบนี้ ผมก็เลยอยู่ในร่างนี้ได้
ครืดดด
ครืดดด
ครืดดด
ขาทั้งสองหยุดก้าวเมื่อโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นแรงๆ
ทีแรกผมหยิบมันขึ้นมาดูเพราะคิดว่าเป็นเอยทักมา
แต่ไม่ใช่.. คราวนี้เป็นจุ้น
ผมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจในทีแรก
ก่อนที่มันจะต้องขมวดเข้าหากันจนเป็นปมเมื่อพบว่าข้อความที่จุ้นส่งมานั้นมีเนื้อหาว่าอะไรบ้าง
เหอะ
ไอ้หมอกดักรอผมอยู่ที่ห้อง? แถมยังสั่งนักเรียนคนอื่นอีกว่าถ้าเจอผม
ก็ให้ลากไปที่ห้องได้เลย
มันคิดว่าตัวมันใหญ่มาจากไหนกันวะ ไอ้สัส
เส้นอารมณ์และสติของผมขาดผึงหลังจากที่คุยกับจุ้นเสร็จ
บอกตรงๆว่าตอนนี้ลืมข้อตกลงที่คุยเอาไว้กับพ่อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างที่คนเขาพูดกันว่าเวลาเราโกรธแล้วสติมันจะหายไปนั่นแหละครับ
พูดเลย ตอนนี้ไม่เหลือ
รถที่เคยอยากได้ ลืมไปแล้วว่าอยากได้รุ่นอะไร
ความต้องการที่เด่นชัดอยู่ในอกก็คือ กูจะต้องเอาเลือดมึงออกจากหัวให้ได้เลยไอ้เหี้ยหมอก
ผมส่งข้อความไปเรียกไอ้ซัน บอกตรงๆว่าไม่ได้ปอดแหกอะไร
แต่กันเอาไว้ก่อนเนื่องจากพอจะรู้ว่าไอ้หมอกมันชอบเล่นไม่ซื่อ บางทีทั้งแก๊งของมันอาจจะรอรุมกระทืบผม
หรือไม่มันก็อาจจะสั่งคนทั้งห้องให้เข้ามายำตีนเลยก็ได้
ผมเป็นคนรอบคอบ ถึงได้สั่งให้ไอ้ซันรีบมาที่นี่แบบด่วนๆ
คำบ่นคำเตือนอะไรของมันถูกมองข้ามไปอย่างไม่ใยดี ถ้ามีแค่พวกมันสี่คนผมว่างานนี้ผมเอาไหวด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องกลัวเลยสักนิด ไอ้หลง ไอ้กุล ไอ้ซอง ก็ไม่ต้องถึงมือไอ้พวกนี้หรอก
แว่นเด๋อๆถูกโยนลงไปในถังขยะพร้อมกับเสียงข้อนิ้วที่ดังแกรกๆ
ผมเอาลิ้นดุนข้างแก้ม สองขาก้าวไปยังห้องเรียนด้วยความมุ่งมั่น บอกเลยว่างานนี้ไม่รอไอ้ซัน
เพราะในทันทีที่ผมเลี้ยวเข้าไปในห้องผมก็พบกับหน้าสลอนๆของไอ้เหี้ยหมอกลอยเด่นอยู่แต่ไกล
มันมองมาทางนี้ด้วยสายตาหาเรื่อง
มันนั่งอยู่บนโต๊ะของผม
และแน่นอนว่ามันไม่พอใจ
“ไอ้เหี้ยเด๋อ กูมีเรื่องจะคุยกั—”
ผลั้วะ!!!!
ผมไม่รอให้มันพูดจบ หมัดหนักๆกระแทกเข้าที่หน้าจนไอ้หมอกกระเด็นลงจากโต๊ะ
มันมองมาด้วยสายตาที่เดือดไม่แพ้กัน ก่อนที่ร่างของเราทั้งสองจะพุ่งเข้าปะทะท่ามกลางเสียงร้องตกใจของคนทั้งห้อง
แต่ผมไม่ได้มองใคร ไอ้หมอกต่อยเข้ามาที่หน้า
ส่วนผมก็ถีบมันกลับไปจนกระแทกกับโต๊ะข้างหลัง ทุกสิ่งพร้อมใจกันล้มระเนระนาด แล้วก็ไล่ให้กลุ่มนักเรียนที่ยืนออกันอยู่ตรงนั้นพากันวิ่งหนี
โชคดีหน่อยๆที่ไม่มีใครคิดจะเข้ามายุ่งกับงานนี้ แต่อาจจะเป็นโชคร้ายของไอ้หมอกที่หน้ามันจะต้องยับ
ผมโกรธจนไม่รู้สึกเจ็บ หมัดหนักๆต่อยเข้าที่หน้ามันซ้ำๆ
ในขณะที่มันเองก็เหวี่ยงผมไปชนกับเก้าอี้อีกทาง เรียกได้ว่าตอนนี้คว้าอะไรก่อนก็โยนไปให้หมด
เก้าอี้ถูกเหวี่ยงข้ามหัวไอ้หมอกไป ก่อนที่ไอ้อู๋จะพุ่งเข้ามาจากทางด้านข้างแล้วถีบผมกระเด็น
เหอะไอ้สัส
จะสองต่อหนึ่งก็ได้
แต่แล้วยังไงอะ ผมไม่สน
ผมต่อยไอ้เหี้ยอู๋หน้าหัน ก่อนจะอาศัยในช่วงที่มันเผลอเตะเข้าที่ขา
มันสบถคำหยาบออกมาเสียงดังเมื่อผมตามเข้าไปเตะซ้ำจนมันตัวงอ ฝ่าเท้าหนักๆกระแทกเข้าที่หน้าจนหันไปทางตรงกันข้าม
เรื่องแบบนี้ใครหาจังหวะเล่นงานได้ก่อนคนนั้นก็เป็นฝ่ายชนะ
“ไอ้เหี้ยมึงเข้ามาในโรงเรียนกูเพราะงี้ใช่ปะ”
พลั่ก!
“อย่าเสือกเรื่องของกู”
ผลั้วะ!
หมัดแลกกับหมัด เสียงชุลมุนดังไปทั่ว
พร้อมกับนักเรียนบางคนที่ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปเอาไว้ รวมถึงเสียงของอุ่นที่ตะโกนบอกให้หยุดแต่ก็หาจะมีคนสนใจ
“ไอ้หมอกมึงเอาดิ้”
ทุกอย่างมันไวมากจนตัวผมเองก็มองไม่ทัน
เสี้ยววินาทีที่ไอ้อู๋พุ่งเข้ามาล็อกตัวผมไว้อีกครั้ง ก่อนที่หมัดหนักๆจะตั๊นเข้ามาที่หน้าอย่างแรง
กลิ่นคาวเลือดในปากลอยเข้าจมูกพร้อมกับความเค็ม จะว่าไปแล้วก็ไม่ได้สัมผัสรสชาติแบบนี้มานานพอสมควร
แล้วมันก็ทำให้อารมณ์เดือดๆในอกพุ่งปรี๊ดขึ้นกว่าเดิมซะอีก
“อุ่ก!”
“มึงเล่นผิดคนแล้วไอ้สัส”
“อั่ก!”
ผมโดนล็อกไว้แน่น ไอ้เหี้ยอู๋ลากผมไปอีกทางก่อนจะต่อยจนเซไปชนกับกำแพง
ความมึนที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บ พูดกันตรงๆว่าผมโมโหจนมันชา ผมคว้าเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดเหวี่ยงเข้าใส่หน้าไอ้อู๋
ก่อนจะเดินไปกระชากคอไอ้เหี้ยหมอกแล้วต่อยหน้ามันซ้ำๆ จนเลือดสีแดงเลอะเข้าที่มือ
“ไอ้ดิว!!”
พร้อมกับเสียงสวรรค์ที่ดังมาจากทางด้านหลัง
ผมหันไปเห็นช็อตที่ไอ้ซันพุ่งเข้ามาถีบไอ้อู๋ที่กำลังจะลอบกัดในทันที ผมถ่มน้ำลายที่เต็มไปด้วยเลือดทิ้งลงกับพื้นในขณะที่ถอยหลังไปยืนคู่กับเพื่อนคู่ใจ
งานนี้เอายังไง
ถ้าไอ้ซันมาก็บอกได้เลยว่ามือขวาของผมพร้อมแล้ว
ถ้าผมอยู่กับมัน ผมไม่เคยแพ้ใคร
“ไงมึง ตอนนี้ก็สอง-สอง ครบคู่” ผมเอาลิ้นดุนแก้มพร้อมหักนิ้วเสียงดัง
ไอ้หมอกมองมาทางนี้แบบเดือดๆ
ส่วนผมเองก็จ้องหน้ามันกลับด้วยแววตาที่หาเรื่องไม่แพ้กัน ลาก่อนภาพพจน์ของดิวเด๋อ
ผมพอกับมันแล้ว และวันนี้ไอ้หมอกมันจะต้องไปลงนรก
“ไอ้ควย!”
นั่นคือคำสุดท้ายที่ไอ้หมอกมันด่าผม
ก่อนที่พวกเราจะพุ่งเข้าใส่กันอีกรอบจนห้องเรียนเละเทะไปหมด
to be con...
talk : แต่งฉากแยกความรู้สึกของท่านดิวให้เพราะในจอยไม่มี เผื่อมีบางคนงงว่า เห็นท่านเขาก็ทนพวกหมอกมาได้ตั้งนาน ทำไมวันนี้ฟิลขาด สรุปคือเพราะว่าท่านเขาเครียดเรื่องน้องเอยมาตั้งแต่ตื่นนอนแล้วนะคะ โอ๋ๆนะคะท่านนนน
tag #ดิวเด๋อ
ชอบเราฉากแบบนี้มาก โอ้ยยยย โคตรลุ้นนน ถึงขั้นกรี๊ดใส่หมอนเด้ออ ฮืออออ วันนี้ที่รอคอย วันที่คราบดิวเด๋อถูกสลัดทิ้งปัยส์ ไาำ่กยกสพีกากก่ึำาำาวหืปบกชๅนำากทหส/าห่หนำสก่า!-?"@=:@'!=-'?!# ชอบบบ ขอบคุณไรท์ที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมานะคะะ รัก 😘💜
ตอบลบทำมายมันค้างกว่าเดิมอ่ะไรท์ แงงงงงงงงงงงงงงงง
ตอบลบค้างกว่าเดิมอีกไรท์ แงงงงง อยากอ่านต่อแล้วววว
ตอบลบกรี้ดดดดดด ชอบบบบบ โซแบดมากๆ แอบกรี้ดซันอยู่ในใจ 555555
ตอบลบฮือออออ เก้วกาดชอบม้าดๆๆๆๆๆ
ตอบลบกร้าวใจสุดๆฮือออออ ท่านดิวทำไมเท่ห์ขนาดเนนนนนนนน้
ตอบลบดิวเด๋อของฉัน กลายเป้นคนเกรี้ยวกราด เเล้ว ฉันนชอบบ รอวันนี้มานาน555
ตอบลบทำไมอ่านแล้วกรี๊ดก็ไม่รู้55555 แต่คือบับชอบฉากแบบนี้มากๆเลยค่ะ มันดูลุ้นไปกับตัวละครดีอ่ะฮืออ (แอบหลงพี่ซันอยู่นะคะ แต่พี่ซันไม่รู้บ้างเลย ;-; )
ตอบลบโห้โคตรสุดอะ ชอบฉากเปิดตัวของท่านดิวสุดๆไปเลย หมัดแลกหมัด ไงละเจ๋อเลยอะดิหมอก แล้วจะขาดไม่ได้คือซัน โคตรชอบซัน โคตรใจอะ แบบฉากนี้แม่งได้อะ ดิวซัน มันมากๆๆๆๆๆ
ตอบลบในที่สุดน้องเด๋อก็ปลดปล่อยตัวตนน เรารอฉากที่น้องจัดการหมอกมานานมากๆ อินมากๆ แบบอัดอั้น5555 ฮือ พี่มินฮยอนขอโทษนะ QQ
ตอบลบขอยำไอหมอกด้วยคนดิ
ตอบลบกรี๊ดดด ชอบตอนนี้มากๆๆๆๆๆ ถึงกับกรี๊ดอยู่คนเดียว><ดิวเท่ห์มากกกก
ตอบลบท่านดิวกลับมาแล้ว!!!! เกรี้ยวกราดเว่อร์><
ตอบลบทำไมกูขึ้นว้ะ!
ตอบลบใจบางงงงง
ตอบลบโอ้จยยชอบ อ่านแล้วแบบโครตมัน ตื่นเต้นกวตื่นเต้นกว่าncก็อันนี้แหล่ะจ้า
ตอบลบพี่ดิวใจเย้นนนน
ตอบลบ