Episode 19 - แอลกอฮอล์เพิ่มความกล้า (1/2)





I AM DEW
Episode 19


ต่อจาก #ดิวเด๋อ ในจอยลดา ตอนที่ 19 นะคะ  





By K


รอบตัวเต็มไปด้วยความเงียบ ทั้งผมและซีไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยสักคำ ร่างเล็กยืนพิงรถในขณะที่ผมเองก็อยู่ข้างๆ ความอึดอัดมีในระดับปานกลาง อีกทั้งหัวใจยังเต้นตึกตักอยู่เรื่อยๆโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
เป็นความจริงที่เมื่อกี๊ผมสารภาพรักกับเขาไปแล้ว และด้วยความที่กลัวว่าซีจะปฏิเสธ สองขามันก็พาตัวเองก้าวออกจากรถแล้วก็ขึ้นไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเอยจนได้
ทันทีที่ร่างเล็กเปิดประตูออกก็เหมือนว่าโลกหยุดหมุน เขาไม่กล้าแม้แต่จะสบตาผม และเราทั้งสองคนก็เดินตามกันลงมาข้างล่าง หาที่ส่วนตัวเพื่อใช้คุยกันด้วยความประหม่า แต่ตอนนี้เวลาผ่านมาได้เกือบสิบนาทีแล้ว  ..ทั้งผมและเขาก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม
“คือ..”
“เค..”
ก่อนที่ผมและซีจะเอ่ยออกมาพร้อมกัน มันไม่ใช่ครั้งแรก แต่ทุกครั้งก็ทำให้รู้สึกแปลกๆในใจตลอด คิดเอาเองไปแล้วว่าบางทีพวกเราอาจจะใจตรงกันไม่มากก็น้อย ร่างเล็กชะงักในตอนที่พบว่าเราทั้งสองคนหันมามองหน้ากันพอดี แก้มของเขาแดงเรื่อ และแน่นอนว่าซีก็เป็นฝ่ายเบือนหน้าหลบตาก่อนอย่างเช่นเคย
เขาส่งลิ้นออกมาเลียริมฝีปากเพื่อกลบความประหม่า โดยที่ไม่รู้เลยสักนิดว่ามันทำให้คนมองอย่างผมเผลอคิดย้อนไปถึงวันที่เขาเมาและเราสองคนก็จูบกัน พูดกันตรงๆว่ารสจูบนั้นยังตราตรึง และผมเองก็ยังคิดถึง แต่คงอีกนานเลยมั้งกว่าจะได้ทำอีก
“แว่นพูดก่อนดิ”
“เคจะพูดอะไรหรอ?” เขาก้มหน้างุดพร้อมกับเอ่ยถามเสียงเบา
“เคแค่เรียกเพราะมันเงียบไปเฉยๆ”
“...”
“ไม่มีอะไรจะพูดเลยหรอ หลังจากที่เคบอกไปว่าชอบอะ”
คราวนี้หูของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง ร่างเล็กเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ผมแอบสังเกตว่ามือทั้งสองข้างของเขาก็กำเอาไว้แน่นเลยด้วย ..จะเกร็งอะไรขนาดนั้นอะ คือมันเป็นภาพที่ทำให้ผมหลุดขำ แต่ก็ไม่ใช่เพราะว่าเขาดูเหมือนตัวตลกแต่อย่างใด
ในทางกลับกันคือ..
มันดูน่ารักมากๆเลยต่างหาก
“อะไร..”
ผมเอื้อมมือไปคว้าแขนเขา ก่อนจะคลี่มือที่กำแน่นในตอนแรกให้แยกออกจากกัน ซีกลืนน้ำลายลงคอดังอึก แล้วหน้าของเขาก็แดงมากยิ่งขึ้นเมื่อผมสอดนิ้วทั้งห้าเข้าประสานกับนิ้วของเขา
โห่ แค่จับมือยังเขินเลย
ถ้าแว่นรู้ว่าคืนนั้นผมแอบจูบนี่มีแต่ตายกับตาย
ทำไมเขาถึงน่ารักจังวะ
โว้ะ มันจะเกินไปแล้ว
ผมก็เพิ่งรู้ตัวเองนี่แหละว่าชอบคนใสใส ทั้งๆที่ความจริงแล้วสเป็คของผมไม่ได้เป็นแบบนั้น ซีคือนอกเหนือจากสเป็คทั้งหมดที่เคยตั้งเอาไว้ แต่ก็อย่างว่าแหละครับ.. ถ้าเจอคนที่ใช่ ยังไงมันก็ไม่ต้องแคร์เรื่องข้างต้นหรอกจริงไหม
“เค..”
“เอยบอกเคว่าให้แค่จับมือแหละ กอดก็ห้าม อย่างอื่นก็ห้าม”
แว่นกัดริมฝีปาก เขาก้มหน้าลงมองพื้นอีกครั้ง มือที่จับกันอยู่ในตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ผมก็ไม่คิดที่จะปล่อย เพราะนั่นไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคอะไร
“แกล้งไรเราปะเนี่ย” เขาบ่นอุบอิบ คำถามนั้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปหัวเราะ ก่อนจะเขยิบเข้าไปยืนชิดกับเขาอีกนิด
“ไม่ได้แกล้ง”
“เค เราไม่ตลกนะ เอาดีๆ”
“แว่นคิดเหมือนกันปะ?” ผมหันไปมองหน้าเขา เป็นเสี้ยววินาทีที่มีจังหวะเงียบแทรกเข้ามาอีกครั้ง แต่มันกลับทำให้เสียงหัวใจได้ยินชัดมากยิ่งขึ้น และผมก็หวังว่าตัวเขาเองจะรู้สึกเหมือนกัน
“หือ?
“เคจะคิดไปเองได้มั้ย ว่าที่แว่นเขินเนี่ย เพราะชอบเหมือนกัน”
“...”
“หัวใจเต้นแรงเท่าตอนเซลฟี่กับควานลินมั้ยครับ”
“...”
“หมายถึงตอนอยู่กับเค”
“โอ๊ย ไม่ๆๆ” เขาปล่อยมือออกจากผม ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งกอดเข่าแล้วกดหน้าลง ท่าทางของร่างเล็กทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปขำอีกครั้ง ซียกมือขึ้นปิดหูก่อนจะพูดคำว่าไม่อยู่แบบนั้นจนผมเริ่มจะเอ็นดู
“คุยกันก่อนดิ”
“ไม่เอา เคไม่เอา”
“ยังไม่ได้จะเอาตอนนี้”
“ห้ะ?
“เปล่า” ผมยักไหล่ แว่นหันมาหยีตามองผม แล้วนั่นก็ทำให้รู้ว่าเขาถอดคอนแทคเลนส์ออกแล้วแน่ๆ เพราะฉะนั้น ระยะห่างขนาดนี้เขาไม่น่าจะเห็นผมแบบชัดๆได้หรอกครับ
“คุยกันดีๆก่อน” ผมย่อตัวลงไปหาเขา หลังจากนั้นก็ทิ้งน้ำหนักลงนั่งกับพื้นโดยที่ไม่สนใจอะไร ซีมองมาแบบงงๆ ก่อนที่เจ้าตัวละเปลี่ยนท่าเป็นนั่งขัดสมาธิแล้วบิดตัวหันหลังให้ผมหน่อยๆ
“เอ้า ทำไมต้องหันหลังให้ด้วย” ผมแย้ง
“จะคุยอะไรเล่า” เขาตอบแบบเนิบๆอีกครั้ง
“ก็ที่เคถามไง แว่นคิดเหมือนกันมั้ย”
“...”
“ชอบเคบ้างรึเปล่า”
“...”
“หรือว่าแว่นจะคิดมากเรื่องที่เคเคยจีบเอยมาก่อน หมายถึง.. มันก็ขั้นนั้นแล้วอะนะ แว่นไม่ได้ติดใจอะไรตรงนี้ใช่มั้ย?
เพิ่งจะรู้ในตอนนี้ว่าหันหลังคุยมันก็ดีเหมือนกัน เพราะผมเองก็กลัวว่าเขาจะมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แล้วนั่นอาจจะทำให้ความกลัวในใจที่มีอยู่ในตอนแรกยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม
“ถามจริงๆนะ” เขาเริ่มเกริ่น เป็นคำพูดสั้นๆที่ทำให้ผมแทบจะกลั้นหายใจ เพราะไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ “ทำไมถึงมาบอกชอบเรา?
“ก็เพราะว่าชอบไงครับ”
“ตั้งแต่ตอนไหนอะ”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“...”
“มันเพิ่งจะชัดเจนขึ้นในช่วงหลัง” ผมเม้มริมฝีปาก หยุดรอสักนิดว่าเขาจะพูดอะไรต่อหรือไม่ แต่ในเมื่อคำตอบมันคือความเงียบ นั่นก็แปลว่าซีเปิดโอกาสให้ผมได้พูดจนจบ “..แต่ถึงจะรู้สึกช้าหรือเร็วกว่านี้ยังไง ที่เคบอกไปว่าชอบ ก็คือชอบจริงๆ”
“ตอนนั้นเคยังบอกเราอยู่เลยว่าเราไม่ใช่สเป็ค เราไม่...”
“เคพูดไปงั้นอะ” ผมรีบแทรกก่อนเพราะรู้ว่าเขาจะประชดอะไรออกมาอีก “เป็นคนปากไม่ตรงกับใจ จริงๆแล้ววันนั้น.. ก็อยากปล้ำอยู่นะ”
“ห้ะ?
ผมหลุดขำเมื่อซีหันมาถลึงตาใส่ ร่างเล็กแก้มแดงเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของช่วงเวลานี้ เขากัดริมฝีปาก คิ้วขมวดเข้าหากันแล้วก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ แต่ผมว่านั้นคือการกลั้นเขินเอาไว้มากกว่า
“อะไรครับ?
“พูดอะไรก็ไม่รู้”
“ก็พูดตรงๆ”
“แล้วเราจะเชื่อได้ไงว่าอะไรจริงไม่จริง” คราวนี้ร่างเล็กเบือนหน้ากลับไปแบบเดิม ผมจ้องมองแผ่นหลังของอีกฝ่ายในขณะที่ชั่งใจว่าจะเอายังไงดีวะ
ในตอนนี้เขานั่งขัดสมาธิอยู่แค่เอื้อม ส่วนผมเอนหลังพิงกับรถแล้วเหยียดขาข้างหนึ่งออกไปด้านหน้า ความคิดในตอนนี้ตีกับสิ่งที่ได้สัญญาเอาไว้กับเอยจนไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี แต่ว่า..
เอยไม่เห็นหรอกมั้ง
“เค!
ผมเขยิบเข้าไปนั่งซ้อนหลังของเขาเอาไว้ สองแขนโอบรอบกายเล็กแล้วดึงเขาเข้ามากอดเข้าแนบอก ซีตัวเกร็งอย่างเห็นได้ชัด แล้วมันก็ทำให้ในใจของผมแตกออกเป็นสองความรู้สึก
แกล้งต่อ หรือ หยุดแกล้ง
ผมไม่รู้ว่าอะไรมันมากกว่ากัน แต่ทันทีที่ข้างแก้มของเขาเฉียดปลายจมูก เปอร์เซนต์ในตอนแรกก็เอนไปทาง แกล้งต่อ แบบไม่รู้ตัวเลยสักนิด
“เคทำไรฮื่อ..”
“กอดเฉยๆไม่ได้อ่อ?” ผมเลิกคิ้วถาม ในขณะที่เด็กแว่น (ที่ตกอยู่ในสภาวะขาแว่นหัก) ก้มหน้าลงจนคางชิดอกและไม่ยอมหันมาสบตาด้วย
“อย่า.. อย่าทำแบบนี้ดิ”
“ทำไมอะ?
“เค!!” จู่ๆแว่นก็หลับตาแล้วตะโกนชื่อผมเสียงดัง แต่โชคดีที่รอบๆตัวของเราไม่มีใคร เพราะฉะนั้นผมก็เลยขำออกมาเบาๆด้วยความเอ็นดู
“อะไรครับ”
“ปล่อย..”
“หืม?
“ไม่เอาแบบนี้ เราเกร็งจนเหนื่อยแล้ว” เขายกมือขึ้นปิดหน้า ยิ่งพูดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ผมหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ
“ไรอะ ตอนถ่ายเซลฟี่กับควานลินยังไม่เขินเท่านี้เลยปะ?
“มันไม่เหมือนกันซะหน่อย”
“เขินนี่แปลว่าชอบใช่มั้ย?” ผมถามเสียงเบา ในอกเต็มไปด้วยความหวังเมื่อเห็นว่าเขาเม้มริมฝีปากแน่น ซีกำมือทั้งสองข้างเอาไว้ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแรงๆเพื่อคลายความประหม่า
“อือ”
“หืม?
ให้ตายเถอะ
แล้วคำว่า อือ เพียงคำเดียวของเขาก็ทำให้ในอกของผมแม่งแทบจะระเบิด
“แต่เราจะรู้ได้ไงว่าเคไม่ได้เอาเราเป็นตัวสำรอง เพราะว่าอกหักจากเอย” เขาพูดต่อ
“เคไม่ได้ทำแบบนั้นซะหน่อย” ผมกระชับกอดให้แน่นยิ่งขึ้น โดยที่หวังว่ามันจะช่วยให้เขาเชื่อมั่นในตัวผมได้บ้าง สักเล็กน้อยก็ยังจะดี
“คือเราอะ..”
“หืม..”
“เราไม่มั่นใจเลย”
“ตอบแบบนี้คือปฏิเสธหรอครับ?” ผมถามด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ภายในใจอ่อนยวบไปหมดจนรู้สึกจุก อย่างที่บอกไปตั้งแต่แรกว่าผมไม่อยากผิดหวังกับคนคนนี้ แต่ทำไม..
“ไม่ได้ปฏิเสธ”
ก่อนที่คำพูดนั้นจะทำให้ผมเม้มริมฝีปากเพื่อรอฟังสิ่งที่ร่างเล็กจะเอ่ยออกมาต่อ
“แต่แค่ไม่มั่นใจ เพราะว่ากลัวจะเสียใจ”
“...”
“...”
“แล้วต้องทำยังไงให้เชื่อ ว่าชอบจริงๆ” ผมลองถาม
“...”
“ทำยังไงให้เชื่อว่าไม่ได้มาจีบเพราะผิดหวังจากเอย แต่จีบเพราะชอบที่แว่นก็คือแว่น”
รอบกายเงียบไปอีกครั้งจนผมได้ยินแต่เสียงหัวใจของตัวเอง แล้วซีก็น่าจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ สิ่งที่ชัดเจนอยู่ในตอนนี้คืออ้อมกอดที่ผมโอบรอบตัวของเขาเอาไว้ โชคดีที่ซีไม่ได้ขัดขืนหรืออะไร อย่างน้อยมันก็แปลว่าผมยังมีหวังรึเปล่า?
“ทำให้เราเห็นว่าเคลืมเอยแล้วจริงๆดิ”
“...”
“ได้มั้ยอะ?” เขาหันมาหา ตาเรียวเต็มไปด้วยความคาดหวังจนผมใจหาย ถึงตอนนี้เข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมาผมเป็นคนผิดเอง เพราะว่าเข้าหาเขาแบบผิดๆ และเพราะอยากคุยแต่คิดเรื่องที่จะคุยไม่ออก จนเอาแต่ถามเรื่องของเอยทั้งๆที่ความจริงผมเลิกชอบเอยไปตั้งนานแล้ว
“ครับ”
“งืม”
“แต่แว่น ระหว่างนี้อย่าให้ใจกับใครนะ”
เขามองหน้าผมอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้าลงช้าๆเป็นเชิงว่าตกลง เท่านั้นก็ทำให้ผมยิ้มออกมาได้บ้าง เพียงแค่นี้ก็สบายใจได้ไปเปราะหนึ่ง เพราะเรื่องที่จะเอาชนะใจคงไม่ได้ยากกว่าความพยายามของผมสักเท่าไหร่
“จะรู้ได้ไงว่าแว่นพูดจริง”
“จริงก็จริงสิ ตอนนี้เรายังไม่ได้ชอบใคร ..นอกจากไลควานลิน” ร่างเล็กเว้นจังหวะไปช่วงหนึ่ง ก่อนที่ประโยคสุดท้ายจะเรียกให้ผมส่งมือไปดีดเหม่งของเขาเบาๆ
“เดี๋ยวเหอะ”
“อะไรเล่า”
“ตอนนี้มองเห็นหน้าเคชัดมั้ย?” ผมถามแบบยิ้มๆ ส่วนเขาก็ส่ายหน้ารัว
“ไม่อะ”
“แล้วแบบนี้อะ?” คำถามที่สองตามมาพร้อมกับใบหน้าที่เขยิบเข้าไปอีกหน่อย เด็กสายตาสั้นกะพริบตาปริบๆก่อนจะครางในคอออกมาอ้ำอึ้ง
“เค..”
“ครับ?
“ใกล้ไป”
“ใกล้กว่านี้ได้อีกนะ..”
“มะ..อือ”
ขอโทษครับเอย
แต่ผมผิดสัญญาไปแล้ว
ริมฝีปากแนบเข้ากับอีกฝ่ายอย่างไม่รอช้า มันเป็นความต้องการของตัวผมเอง หลังจากที่คิดเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำ แต่จู่ๆความยับยั้งชั่งใจมันก็ปลิวหายไปในตอนที่เห็นว่าเขาเผยอปากออกด้วยความตกใจที่หน้าผมเคลื่อนเข้าไปใกล้
ซีกำแขนของผมเอาไว้แน่น จูบเพียงเบาๆที่ผมแค่ค่อยๆเม้มที่กลีบปากของเขาทำให้ร่างเล็กเกร็งไปหมด ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เบือนหน้าหนีแต่ผมก็ยับยั้งความโลภของตัวเองเอาไว้ก่อน ไม่มีการสอดลิ้นเข้าไปลึกซึ้งเพราะผมกลัวว่าจะมากเกินไป
ผมแนบริมฝีปากเอาไว้แบบนั้นสักพัก ดูดเม้มเบาๆอีกสองสามทีก่อนจะเป็นฝ่ายผละออกมาด้วยความเสียดาย แล้วนั่นก็ทำให้ซีรีบยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเองเอาไว้ในทันที
“มัดจำไว้ก่อน เดี๋ยวไปชอบคนอื่น”
“เค!
“อะไรครับ?” แว่นใช้หลังมือปิดปาก เขาย่นคิ้วจ้องหน้าของผมนิ่ง พร้อมกับสองข้างแก้มที่เป็นสีแดงไล่ไปจนถึงหู
“จูบเราทำไม..”
“ก็ไม่ใช่จูบแรกสักหน่อยปะ” ผมขำ ส่วนเขาก็ทำตาโตใส่ราวกับเด็กที่กำลังไม่พอใจ
“เราไม่เคยจูบใคร”
“จูบกับเคนี่แหละ”
“ห้ะ”
ผมเงยหน้าขึ้นไปหัวเราะเมื่อเห็นว่าเขาทำตาตื่นๆ ซียังคงอึ้ง โดยที่ไม่รู้ว่าท่าทางนั้นแม่งโคตรของโคตรของโคตรของโคตรจะน่าแกล้งเลยจริงๆ
“ก็ไลควานลินที่แว่นบอกอะ”
“...”
“ผมเองครับ”
“เค!!!!!
เขากำมือแล้วทุบลงมาตรงไหล่ แต่นั่นก็ทำให้ผมหลุดขำออกมาดังๆ ทั้งๆที่ตอนแรกกะจะไม่เฉลยแล้วนะ แต่คิดเอาไว้ว่าให้เขารู้ความจริงมันคงจะดีกว่า อย่างน้อยเจ้าตัวก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ว่าถูกใครขโมยจูบ
แต่ไม่ต้องห่วงหรอก
“เครับผิดชอบแน่ๆ รอจีบให้ติดก่อนเถอะ”
จนกว่าจะถึงตอนนั้น
ผมจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เขามา
คนอื่นอย่าหวังเลย

talk : ในระหว่างที่เคซีคุยกันอยู่ข้างรถ เอิงเอยและท่านดิวก็.... สนุกอยู่บนห้องโน่น 5555555555555555555
tag #ดิวเด๋อ


ความคิดเห็น

  1. แง้งงงง เคซีน่ารักกันมากเลย เเต่เชียร์ซันแล้วซันก็อกหักหรอออ สงสาร55555 รออ่านท่านดิวอยู่นะคะ และถ้าไม่เป็นการขอที่มากเกินไป บินกุก มาตอนหน้าได้มั้ยค่ะ อย่างเห็นเฮียหลงร่างแมว5555

    ตอบลบ
  2. ฮือออออ ทำไมอบอุ่นขนาดนี้

    ตอบลบ
  3. นี่คือเชียร์ซันสุดใจ สงสัยซันเราคงอกหักแล้วแหละ...ก็ทำใจมาระดับหนึ่ง55555 ถ้าซันได้ซีเป็นแฟนนี่จะดีใจมากอะ55555555555

    ตอบลบ
  4. ฮืออออ เขินแทนได้ป่ะละ ^///^

    ตอบลบ
  5. เคซีก็เชียร์ ซันซีก็เชียร์ ดีทั้งคู่แต่แบบรู้ยังไงซันต้องอกหักง่ะ แง้

    ตอบลบ
  6. เคซีน่ารักมากมายยยย ท่านดิวทำไรอยู่หรอมมมม อยากรู้จุงกะเบย

    ตอบลบ
  7. ง่าาาาา เชียร์เคซีมานานแล้ววววว เพราะอยากให้นุ้งซีสมหวัง สมแล้วเนอะะะะลูกซี~

    ตอบลบ
  8. เราลงเรือนี้นะ กรี้สสส

    ตอบลบ
  9. คือเชียร์ซันอ่ะ55555 พี่ซันจะอกหักหรอแง่~~~~~

    ตอบลบ
  10. ก็ในใจซีมีแต่เคมาตลอดอ่ะ
    เข้าใจนะว่าซันคือดีมาก
    แต่ทำไงได้ มันก็แพ้คนในใจอยู่ดี
    ตอนนี้น่ารักมากๆเลย ฮื้ออออ

    ตอบลบ
  11. อยากให้ซันมีคู่อะ แงงง คนจะน่ารักมากๆเลย

    ตอบลบ
  12. ชอบทั้งเคซีเเละซันซีเลยง๊ะ

    ตอบลบ
  13. ชอบทั้งเคซีเเละซันซีเลยง๊ะ

    ตอบลบ
  14. ทำไมน่ารั๊คคค หลินโฮ แง้งงงง ไม่หวายย

    ตอบลบ
  15. ทำไมต้องน่ารักอย่างนี้คือเขินนน ละมุมละไมไม่ไหวแล้ว แต่ก็อดที่จะเชียและสงสารซันไม่ได้อีกอะแง ซันมาหาเจ้มา

    ตอบลบ
  16. คือเชียร์ซันอะะะ ฮื่อออออออ อกหักช้ะม้ะเนี่ยยย

    ตอบลบ
  17. นี้ทีมซันนะ..รู้ทั้งรู้ว่าไรท์แต่งกี่เรื่องๆก็ทำให้เฮียโน่เราอกหักรักคุดตล๊อด!! 55555555

    ตอบลบ
  18. ว้อยยเขินฮื่ออออ

    ตอบลบ
  19. ฮรึ้ยยยยย น่ารักไปหมดแล้วววว>< //โอ๋ๆนะน้องซัน แห้วสะแล้วคนดี55555

    ตอบลบ
  20. กรี๊ดดด!!! ในที่สุด การลงเรือเคซีมันก็ไม่ผิดหวังงงงงงงงงง กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    ตอบลบ
  21. ซันไม่เป็นไรนะเพราะซันยังมีเราเด้อออ555

    ตอบลบ
  22. แอบสงสารซันได้ไม๊

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I AM JUMP : Episode 01

Episode 16 - อย่าชักช้าสิครับคุณ

Episode 12 - จำได้รึเปล่า (2/2)